GeForce GTX 1650 Max-Q เทียบกับ GTX 1070 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1070 Ti กับ GeForce GTX 1650 Max-Q รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
GTX 1070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1650 Max-Q อย่างมหาศาลถึง 137% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 125 | 342 |
จัดอันดับตามความนิยม | 70 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 30.26 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.61 | 37.06 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | GP104 | TU117 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 2 พฤศจิกายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2432 | 1024 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1607 MHz | 930 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1683 MHz | 1125 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 7,200 million | 4,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 16 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 180 Watt | 30 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 255.8 | 72.00 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 8.186 TFLOPS | 2.304 TFLOPS |
ROPs | 64 | 32 |
TMUs | 152 | 64 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2002 MHz | 1751 MHz |
256.3 จีบี/s | 112.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 3x DisplayPort | No outputs |
HDMI | + | - |
รองรับ G-SYNC | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.140 |
CUDA | 6.1 | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 112
+86.7%
| 60
−86.7%
|
1440p | 72
+140%
| 30
−140%
|
4K | 54
+200%
| 18
−200%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.56 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 5.54 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 7.39 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 100−110
+169%
|
35−40
−169%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
+182%
|
27−30
−182%
|
Cyberpunk 2077 | 80−85
+153%
|
30−35
−153%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 100−110
+169%
|
35−40
−169%
|
Battlefield 5 | 120−130
+95.3%
|
64
−95.3%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
+182%
|
27−30
−182%
|
Cyberpunk 2077 | 80−85
+153%
|
30−35
−153%
|
Far Cry 5 | 114
+200%
|
38
−200%
|
Fortnite | 150−160
+13%
|
138
−13%
|
Forza Horizon 4 | 130−140
+85.1%
|
74
−85.1%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
+154%
|
40−45
−154%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
+65.9%
|
85
−65.9%
|
Valorant | 210−220
+72.4%
|
120−130
−72.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 100−110
+169%
|
35−40
−169%
|
Battlefield 5 | 120−130
+131%
|
54
−131%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
+182%
|
27−30
−182%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+65.9%
|
167
−65.9%
|
Cyberpunk 2077 | 80−85
+153%
|
30−35
−153%
|
Dota 2 | 127
+35.1%
|
94
−35.1%
|
Far Cry 5 | 108
+209%
|
35
−209%
|
Fortnite | 150−160
+95%
|
80
−95%
|
Forza Horizon 4 | 130−140
+98.6%
|
69
−98.6%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
+154%
|
40−45
−154%
|
Grand Theft Auto V | 120−130
+114%
|
56
−114%
|
Metro Exodus | 66
+136%
|
28
−136%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
+98.6%
|
71
−98.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 120−130
+128%
|
53
−128%
|
Valorant | 210−220
+72.4%
|
120−130
−72.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 111
+127%
|
49
−127%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
+182%
|
27−30
−182%
|
Cyberpunk 2077 | 80−85
+153%
|
30−35
−153%
|
Dota 2 | 121
+37.5%
|
88
−37.5%
|
Far Cry 5 | 102
+209%
|
33
−209%
|
Forza Horizon 4 | 100
+81.8%
|
55
−81.8%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
+154%
|
40−45
−154%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
+166%
|
53
−166%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
+140%
|
30
−140%
|
Valorant | 210−220
+72.4%
|
120−130
−72.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 109
+84.7%
|
59
−84.7%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
+142%
|
12−14
−142%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
+117%
|
110−120
−117%
|
Grand Theft Auto V | 70−75
+184%
|
24−27
−184%
|
Metro Exodus | 40
+150%
|
16
−150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+18.2%
|
140−150
−18.2%
|
Valorant | 240−250
+59.7%
|
150−160
−59.7%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 83
+131%
|
36
−131%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+186%
|
14−16
−186%
|
Far Cry 5 | 75
+127%
|
30−35
−127%
|
Forza Horizon 4 | 81
+119%
|
35−40
−119%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+133%
|
27−30
−133%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 65−70
+171%
|
24−27
−171%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 72
+100%
|
36
−100%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 27−30
+142%
|
12−14
−142%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+143%
|
7−8
−143%
|
Grand Theft Auto V | 67
+139%
|
27−30
−139%
|
Metro Exodus | 25
+150%
|
10
−150%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 47
+161%
|
18
−161%
|
Valorant | 210−220
+159%
|
80−85
−159%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 47
+147%
|
19
−147%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+143%
|
7−8
−143%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+200%
|
6−7
−200%
|
Dota 2 | 105
+94.4%
|
50−55
−94.4%
|
Far Cry 5 | 39
+144%
|
16−18
−144%
|
Forza Horizon 4 | 55
+112%
|
24−27
−112%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+192%
|
12−14
−192%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
+165%
|
17
−165%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 36
+227%
|
11
−227%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
+0%
|
18−20
+0%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1070 Ti และ GTX 1650 Max-Q แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 1070 Ti เร็วกว่า 87% ในความละเอียด 1080p
- GTX 1070 Ti เร็วกว่า 140% ในความละเอียด 1440p
- GTX 1070 Ti เร็วกว่า 200% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Epic Preset อุปกรณ์ GTX 1070 Ti เร็วกว่า 227%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1070 Ti เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (99%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 37.74 | 15.95 |
ความใหม่ล่าสุด | 2 พฤศจิกายน 2017 | 23 เมษายน 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 4 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 16 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 180 วัตต์ | 30 วัตต์ |
GTX 1070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 136.6% และ
ในทางกลับกัน GTX 1650 Max-Q มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 33.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 500%
GeForce GTX 1070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1650 Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce GTX 1070 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ GeForce GTX 1650 Max-Q เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก