GeForce RTX 2070 Super เทียบกับ GTX 1050
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1050 และ GeForce RTX 2070 Super โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2070 Super มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1050 อย่างมหาศาลถึง 262% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 388 | 69 |
จัดอันดับตามความนิยม | 20 | 98 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 11.39 | 41.21 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.08 | 15.27 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | GP107 | TU104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 25 ตุลาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 9 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $109 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 2070 Super มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1050 อยู่ 262%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 640 | 2560 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1290 MHz | 1605 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1392 MHz | 1770 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,300 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 215 Watt |
อุณหภูมิ GPU สูงสุด | 97 °C | ไม่มีข้อมูล |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 58.20 | 283.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.862 TFLOPS | 9.062 TFLOPS |
ROPs | 32 | 64 |
TMUs | 40 | 160 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 320 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 40 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | PCIe 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 145 mm | 267 mm |
ความสูง | 11.1 ซม | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
กำลังไฟระบบที่แนะนำ (PSU) | 300 วัตต์ | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
SLI | - | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1752 MHz | 1750 MHz |
112 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | DP 1.4, HDMI 2.0b, Dual Link-DVI | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C |
รองรับหลายจอภาพ | + | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | + |
HDCP | 2.2 | - |
รองรับ G-SYNC | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
GameStream | + | - |
GPU Boost | 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
VR Ready | + | + |
Ansel | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.5 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | + | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 42
−219%
| 134
+219%
|
1440p | 21
−276%
| 79
+276%
|
4K | 23
−122%
| 51
+122%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.60
−43.5%
| 3.72
+43.5%
|
1440p | 5.19
−21.7%
| 6.32
+21.7%
|
4K | 4.74
−106%
| 9.78
+106%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Cyberpunk 2077 | 20−22
−370%
|
94
+370%
|
Full HD
Medium Preset
Assassin's Creed Odyssey | 38
−174%
|
104
+174%
|
Assassin's Creed Valhalla | 21−24
−319%
|
88
+319%
|
Battlefield 5 | 43
−326%
|
183
+326%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 24−27
−358%
|
119
+358%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−320%
|
84
+320%
|
Far Cry 5 | 30−33
−397%
|
149
+397%
|
Far Cry New Dawn | 35−40
−339%
|
158
+339%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−222%
|
277
+222%
|
Hitman 3 | 24−27
−364%
|
116
+364%
|
Horizon Zero Dawn | 65−70
−310%
|
279
+310%
|
Metro Exodus | 46
−213%
|
144
+213%
|
Red Dead Redemption 2 | 35−40
−239%
|
122
+239%
|
Shadow of the Tomb Raider | 52
−290%
|
203
+290%
|
Watch Dogs: Legion | 70−75
−214%
|
229
+214%
|
Full HD
High Preset
Assassin's Creed Odyssey | 49
−251%
|
172
+251%
|
Assassin's Creed Valhalla | 21−24
−252%
|
74
+252%
|
Battlefield 5 | 35
−391%
|
172
+391%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 24−27
−362%
|
120
+362%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−290%
|
78
+290%
|
Far Cry 5 | 33
−264%
|
120
+264%
|
Far Cry New Dawn | 16
−650%
|
120
+650%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−200%
|
258
+200%
|
Hitman 3 | 24−27
−352%
|
113
+352%
|
Horizon Zero Dawn | 65−70
−297%
|
270
+297%
|
Metro Exodus | 37
−289%
|
144
+289%
|
Red Dead Redemption 2 | 35−40
−156%
|
92
+156%
|
Shadow of the Tomb Raider | 35
−466%
|
198
+466%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
−203%
|
95−100
+203%
|
Watch Dogs: Legion | 70−75
−195%
|
215
+195%
|
Full HD
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 15
−333%
|
65
+333%
|
Assassin's Creed Valhalla | 21−24
−214%
|
66
+214%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 24−27
−250%
|
91
+250%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−265%
|
73
+265%
|
Far Cry 5 | 23
−261%
|
83
+261%
|
Forza Horizon 4 | 34
−350%
|
153
+350%
|
Hitman 3 | 24−27
−316%
|
104
+316%
|
Horizon Zero Dawn | 26
−500%
|
156
+500%
|
Shadow of the Tomb Raider | 31
−439%
|
167
+439%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20
−400%
|
100
+400%
|
Watch Dogs: Legion | 70−75
+7.4%
|
68
−7.4%
|
Full HD
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 35−40
−217%
|
114
+217%
|
1440p
High Preset
Battlefield 5 | 24−27
−372%
|
118
+372%
|
Far Cry New Dawn | 20−22
−330%
|
86
+330%
|
1440p
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 12−14
−338%
|
57
+338%
|
Assassin's Creed Valhalla | 10−11
−430%
|
53
+430%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 14−16
−421%
|
73
+421%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−571%
|
47
+571%
|
Far Cry 5 | 14−16
−340%
|
66
+340%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−292%
|
255
+292%
|
Hitman 3 | 16−18
−344%
|
71
+344%
|
Horizon Zero Dawn | 27−30
−337%
|
118
+337%
|
Metro Exodus | 25
−264%
|
91
+264%
|
Shadow of the Tomb Raider | 18
−583%
|
123
+583%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12−14
−469%
|
70−75
+469%
|
Watch Dogs: Legion | 80−85
−165%
|
215
+165%
|
1440p
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 21−24
−352%
|
95
+352%
|
4K
High Preset
Battlefield 5 | 12−14
−323%
|
55
+323%
|
Far Cry New Dawn | 9−10
−433%
|
48
+433%
|
Hitman 3 | 9−10
−367%
|
42
+367%
|
Horizon Zero Dawn | 60−65
−105%
|
129
+105%
|
Metro Exodus | 12
−550%
|
78
+550%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 15
−353%
|
68
+353%
|
4K
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 7−8
−457%
|
39
+457%
|
Assassin's Creed Valhalla | 6−7
−433%
|
32
+433%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 6−7
−633%
|
44
+633%
|
Cyberpunk 2077 | 2−3
−1050%
|
23
+1050%
|
Far Cry 5 | 7−8
−400%
|
35
+400%
|
Forza Horizon 4 | 16−18
−394%
|
84
+394%
|
Shadow of the Tomb Raider | 11
−491%
|
65
+491%
|
Watch Dogs: Legion | 5−6
−480%
|
29
+480%
|
4K
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 12−14
−392%
|
59
+392%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1050 และ RTX 2070 Super แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 219% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 276% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 122% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Watch Dogs: Legion ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 1050 เร็วกว่า 7%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 2070 Super เร็วกว่า 1050%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1050 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (1%)
- RTX 2070 Super เหนือกว่าใน 71การทดสอบ (99%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 13.08 | 47.37 |
ความใหม่ล่าสุด | 25 ตุลาคม 2016 | 9 กรกฎาคม 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 215 วัตต์ |
GTX 1050 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 186.7%
ในทางกลับกัน RTX 2070 Super มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 262.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 16.7%
GeForce RTX 2070 Super เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1050 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ