GeForce RTX 5070 เทียบกับ Arc A580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Arc A580 และ GeForce RTX 5070 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5070 มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A580 อย่างมหาศาลถึง 143% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 211 | 19 |
จัดอันดับตามความนิยม | 94 | 48 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 60.21 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.15 | 20.66 |
สถาปัตยกรรม | Generation 12.7 (2022−2023) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | DG2-512 | GB205 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 10 ตุลาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 4 มีนาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $549 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3072 | 6144 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1700 MHz | 2325 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2000 MHz | 2512 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 21,700 million | 31,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 175 Watt | 250 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 384.0 | 482.3 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.29 TFLOPS | 30.87 TFLOPS |
ROPs | 96 | 80 |
TMUs | 192 | 192 |
Tensor Cores | 384 | 192 |
Ray Tracing Cores | 24 | 48 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 245 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1750 MHz |
512.0 จีบี/s | 672.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 2.0 | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | - | 10.1 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 103
−108%
| 214
+108%
|
1440p | 56
−120%
| 123
+120%
|
4K | 33
−133%
| 77
+133%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.57 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.46 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 7.13 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 331
+3.1%
|
300−350
−3.1%
|
Cyberpunk 2077 | 73
−142%
|
170−180
+142%
|
Dead Island 2 | 189
−57.1%
|
290−300
+57.1%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 100−110
−67%
|
180−190
+67%
|
Counter-Strike 2 | 263
−22.1%
|
300−350
+22.1%
|
Cyberpunk 2077 | 65
−172%
|
170−180
+172%
|
Dead Island 2 | 166
−78.9%
|
290−300
+78.9%
|
Far Cry 5 | 134
−140%
|
322
+140%
|
Fortnite | 130−140
−124%
|
300−350
+124%
|
Forza Horizon 4 | 107
−162%
|
280−290
+162%
|
Forza Horizon 5 | 123
−167%
|
329
+167%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−53%
|
170−180
+53%
|
Valorant | 180−190
−118%
|
400−450
+118%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 100−110
−67%
|
180−190
+67%
|
Counter-Strike 2 | 129
−149%
|
300−350
+149%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−1.8%
|
270−280
+1.8%
|
Cyberpunk 2077 | 57
−211%
|
170−180
+211%
|
Dead Island 2 | 127
−134%
|
290−300
+134%
|
Far Cry 5 | 122
−151%
|
306
+151%
|
Fortnite | 130−140
−124%
|
300−350
+124%
|
Forza Horizon 4 | 102
−175%
|
280−290
+175%
|
Forza Horizon 5 | 114
−162%
|
299
+162%
|
Grand Theft Auto V | 86
−98.8%
|
170−180
+98.8%
|
Metro Exodus | 97
−84.5%
|
170−180
+84.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−53%
|
170−180
+53%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 174
−151%
|
436
+151%
|
Valorant | 180−190
−118%
|
400−450
+118%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−67%
|
180−190
+67%
|
Cyberpunk 2077 | 53
−234%
|
170−180
+234%
|
Dead Island 2 | 96
−209%
|
290−300
+209%
|
Far Cry 5 | 114
−154%
|
290
+154%
|
Forza Horizon 4 | 87
−222%
|
280−290
+222%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−53%
|
170−180
+53%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 68
−209%
|
210
+209%
|
Valorant | 180−190
−118%
|
400−450
+118%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−124%
|
300−350
+124%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 80
−170%
|
210−220
+170%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 200−210
−155%
|
500−550
+155%
|
Grand Theft Auto V | 37
−295%
|
140−150
+295%
|
Metro Exodus | 57
−114%
|
120−130
+114%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 220−230
−117%
|
450−500
+117%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−132%
|
180−190
+132%
|
Cyberpunk 2077 | 39
−164%
|
100−110
+164%
|
Dead Island 2 | 70
−163%
|
180−190
+163%
|
Far Cry 5 | 87
−155%
|
222
+155%
|
Forza Horizon 4 | 75
−227%
|
240−250
+227%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55
−202%
|
166
+202%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 70−75
−110%
|
150−160
+110%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 19
−416%
|
95−100
+416%
|
Dead Island 2 | 27−30
−132%
|
65−70
+132%
|
Grand Theft Auto V | 38
−345%
|
160−170
+345%
|
Metro Exodus | 37
−119%
|
80−85
+119%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 61
−146%
|
150
+146%
|
Valorant | 170−180
−91.9%
|
300−350
+91.9%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
−200%
|
130−140
+200%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−216%
|
95−100
+216%
|
Cyberpunk 2077 | 21
−138%
|
50−55
+138%
|
Dead Island 2 | 35
−140%
|
80−85
+140%
|
Far Cry 5 | 47
−147%
|
116
+147%
|
Forza Horizon 4 | 56
−259%
|
200−210
+259%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−191%
|
95−100
+191%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 30−35
−132%
|
75−80
+132%
|
นี่คือวิธีที่ Arc A580 และ RTX 5070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 เร็วกว่า 108% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5070 เร็วกว่า 120% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5070 เร็วกว่า 133% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ Arc A580 เร็วกว่า 3%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5070 เร็วกว่า 416%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Arc A580 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RTX 5070 เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 29.97 | 72.77 |
ความใหม่ล่าสุด | 10 ตุลาคม 2023 | 4 มีนาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 175 วัตต์ | 250 วัตต์ |
Arc A580 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 42.9%
ในทางกลับกัน RTX 5070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 142.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
GeForce RTX 5070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ