Arc A580 เทียบกับ Radeon RX Vega 56
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 56 และ Arc A580 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX Vega 56 มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A580 อย่างปานกลาง 10% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 155 | 187 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 55 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 23.54 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.22 | 12.21 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Generation 12.7 (2022−2023) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | DG2-512 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 10 ตุลาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1156 MHz | 1700 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1471 MHz | 2000 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 21,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 Watt | 175 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 329.5 | 384.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.54 TFLOPS | 12.29 TFLOPS |
ROPs | 64 | 96 |
TMUs | 224 | 192 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 384 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 800 MHz | 2000 MHz |
409.6 จีบี/s | 512.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 2.0 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.3 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 115
+8.5%
| 106
−8.5%
|
1440p | 77
+42.6%
| 54
−42.6%
|
4K | 50
+51.5%
| 33
−51.5%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.47 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 5.18 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 7.98 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 90−95
−60.2%
|
149
+60.2%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−42%
|
98
+42%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−1.4%
|
73
+1.4%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 90−95
−18.3%
|
110
+18.3%
|
Battlefield 5 | 151
+38.5%
|
100−110
−38.5%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−20.3%
|
83
+20.3%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+10.8%
|
65
−10.8%
|
Far Cry 5 | 98
−36.7%
|
134
+36.7%
|
Fortnite | 150
+11.1%
|
130−140
−11.1%
|
Forza Horizon 4 | 141
+31.8%
|
107
−31.8%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
+10.7%
|
80−85
−10.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 153
+33%
|
110−120
−33%
|
Valorant | 190−200
+6.5%
|
180−190
−6.5%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 90−95
+17.7%
|
79
−17.7%
|
Battlefield 5 | 140
+28.4%
|
100−110
−28.4%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−7.2%
|
74
+7.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+1.5%
|
270−280
−1.5%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+26.3%
|
57
−26.3%
|
Dota 2 | 130−140
+14.2%
|
120−130
−14.2%
|
Far Cry 5 | 93
−31.2%
|
122
+31.2%
|
Fortnite | 139
+3%
|
130−140
−3%
|
Forza Horizon 4 | 134
+31.4%
|
102
−31.4%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
+10.7%
|
80−85
−10.7%
|
Grand Theft Auto V | 94
+9.3%
|
86
−9.3%
|
Metro Exodus | 70
−38.6%
|
97
+38.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 137
+19.1%
|
110−120
−19.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 124
−40.3%
|
174
+40.3%
|
Valorant | 190−200
+6.5%
|
180−190
−6.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 131
+20.2%
|
100−110
−20.2%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+3%
|
67
−3%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+35.8%
|
53
−35.8%
|
Dota 2 | 130−140
+14.2%
|
120−130
−14.2%
|
Far Cry 5 | 89
−28.1%
|
114
+28.1%
|
Forza Horizon 4 | 109
+25.3%
|
87
−25.3%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
+10.7%
|
80−85
−10.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120
+4.3%
|
110−120
−4.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 74
+8.8%
|
68
−8.8%
|
Valorant | 190−200
+6.5%
|
180−190
−6.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 108
−25%
|
130−140
+25%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
+3.8%
|
24−27
−3.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
+9%
|
200−210
−9%
|
Grand Theft Auto V | 60−65
+67.6%
|
37
−67.6%
|
Metro Exodus | 42
−35.7%
|
57
+35.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
+4.5%
|
220−230
−4.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 99
+26.9%
|
75−80
−26.9%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−11.4%
|
39
+11.4%
|
Far Cry 5 | 74
−17.6%
|
87
+17.6%
|
Forza Horizon 4 | 88
+17.3%
|
75
−17.3%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+9.6%
|
50−55
−9.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
+3.6%
|
55
−3.6%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 74
+2.8%
|
70−75
−2.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
+8.7%
|
21−24
−8.7%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
+7.1%
|
14−16
−7.1%
|
Grand Theft Auto V | 50
+31.6%
|
38
−31.6%
|
Metro Exodus | 27
−37%
|
37
+37%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
−38.6%
|
61
+38.6%
|
Valorant | 190−200
+11%
|
170−180
−11%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55
+22.2%
|
45−50
−22.2%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
+50%
|
10
−50%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−40%
|
21
+40%
|
Dota 2 | 95−100
+14.1%
|
85−90
−14.1%
|
Far Cry 5 | 39
−20.5%
|
47
+20.5%
|
Forza Horizon 4 | 59
+5.4%
|
56
−5.4%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
+13.8%
|
27−30
−13.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 44
+33.3%
|
30−35
−33.3%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 37
+8.8%
|
30−35
−8.8%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 56 และ Arc A580 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 56 เร็วกว่า 8% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 56 เร็วกว่า 43% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 56 เร็วกว่า 52% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 56 เร็วกว่า 68%
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ Arc A580 เร็วกว่า 60%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 56 เหนือกว่าใน 44การทดสอบ (69%)
- Arc A580 เหนือกว่าใน 19การทดสอบ (30%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 33.79 | 30.65 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 สิงหาคม 2017 | 10 ตุลาคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 วัตต์ | 175 วัตต์ |
RX Vega 56 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 10.2%
ในทางกลับกัน Arc A580 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 20%
Radeon RX Vega 56 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ