GeForce RTX 4080 เทียบกับ T1000
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ T1000 กับ GeForce RTX 4080 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า T1000 อย่างมหาศาลถึง 354% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 290 | 4 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 29.11 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 27.28 | 19.34 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU117 | AD103 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 6 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $1,199 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 896 | 9728 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1065 MHz | 2205 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1395 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 78.12 | 761.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.5 TFLOPS | 48.74 TFLOPS |
ROPs | 32 | 112 |
TMUs | 56 | 304 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 304 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 76 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 310 mm |
ความกว้าง | 1-slot | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1250 MHz | 1400 MHz |
160.0 จีบี/s | 716.8 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 4x mini-DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 61
−284%
| 234
+284%
|
1440p | 35−40
−366%
| 163
+366%
|
4K | 21−24
−410%
| 107
+410%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 5.12 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 7.36 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 11.21 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 45−50
−392%
|
240−250
+392%
|
Counter-Strike 2 | 45
−353%
|
200−210
+353%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−492%
|
231
+492%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 45−50
−363%
|
227
+363%
|
Battlefield 5 | 75−80
−156%
|
190−200
+156%
|
Counter-Strike 2 | 34
−538%
|
217
+538%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−492%
|
231
+492%
|
Far Cry 5 | 62
−260%
|
223
+260%
|
Fortnite | 95−100
−205%
|
300−350
+205%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−353%
|
300−350
+353%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−379%
|
249
+379%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70−75
−153%
|
170−180
+153%
|
Valorant | 140−150
−294%
|
550−600
+294%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 45−50
−318%
|
205
+318%
|
Battlefield 5 | 75−80
−156%
|
190−200
+156%
|
Counter-Strike 2 | 28
−621%
|
202
+621%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−22.5%
|
270−280
+22.5%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−438%
|
210
+438%
|
Far Cry 5 | 57
−282%
|
218
+282%
|
Fortnite | 95−100
−205%
|
300−350
+205%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−353%
|
300−350
+353%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−360%
|
239
+360%
|
Grand Theft Auto V | 77
−131%
|
178
+131%
|
Metro Exodus | 35
−509%
|
213
+509%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70−75
−153%
|
170−180
+153%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 64
−752%
|
545
+752%
|
Valorant | 140−150
−294%
|
550−600
+294%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−156%
|
190−200
+156%
|
Counter-Strike 2 | 24
−608%
|
170
+608%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−387%
|
190
+387%
|
Far Cry 5 | 53
−285%
|
204
+285%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−353%
|
300−350
+353%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−342%
|
230−240
+342%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70−75
−153%
|
170−180
+153%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35
−640%
|
259
+640%
|
Valorant | 140−150
−311%
|
575
+311%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 95−100
−205%
|
300−350
+205%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 20−22
−530%
|
120−130
+530%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 130−140
−282%
|
500−550
+282%
|
Grand Theft Auto V | 30−35
−406%
|
162
+406%
|
Metro Exodus | 24−27
−542%
|
154
+542%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.9%
|
170−180
+2.9%
|
Valorant | 170−180
−174%
|
450−500
+174%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−270%
|
190−200
+270%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−659%
|
129
+659%
|
Far Cry 5 | 40−45
−379%
|
201
+379%
|
Forza Horizon 4 | 45−50
−551%
|
300−350
+551%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−324%
|
140−150
+324%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−33
−537%
|
191
+537%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 40−45
−260%
|
150−160
+260%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 14−16
−500%
|
90−95
+500%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
−811%
|
82
+811%
|
Grand Theft Auto V | 30−35
−444%
|
185
+444%
|
Metro Exodus | 14−16
−593%
|
104
+593%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−593%
|
187
+593%
|
Valorant | 100−110
−216%
|
300−350
+216%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 27−30
−386%
|
130−140
+386%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
−222%
|
29
+222%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−800%
|
63
+800%
|
Far Cry 5 | 20−22
−600%
|
140
+600%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−821%
|
300−350
+821%
|
Forza Horizon 5 | 16−18
−341%
|
75−80
+341%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 18−20
−433%
|
95−100
+433%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 18−20
−316%
|
75−80
+316%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 249
+0%
|
249
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 233
+0%
|
233
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 227
+0%
|
227
+0%
|
นี่คือวิธีที่ T1000 และ RTX 4080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 284% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 366% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 410% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 821%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เหนือกว่าใน 61การทดสอบ (95%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 19.57 | 88.80 |
ความใหม่ล่าสุด | 6 พฤษภาคม 2021 | 20 กันยายน 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 วัตต์ | 320 วัตต์ |
T1000 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 540%
ในทางกลับกัน RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 353.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า T1000 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า T1000 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ GeForce RTX 4080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป