GeForce RTX 4080 เทียบกับ T600
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ T600 กับ GeForce RTX 4080 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า T600 อย่างมหาศาลถึง 433% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 333 | 4 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 29.11 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 29.01 | 19.34 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU117 | AD103 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 6 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $1,199 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 640 | 9728 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 735 MHz | 2205 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1335 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 40 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 53.40 | 761.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.709 TFLOPS | 48.74 TFLOPS |
ROPs | 32 | 112 |
TMUs | 40 | 304 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 304 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 76 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 310 mm |
ความกว้าง | 1-slot | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1250 MHz | 1400 MHz |
160.0 จีบี/s | 716.8 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 4x mini-DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 55
−325%
| 234
+325%
|
1440p | 24
−579%
| 163
+579%
|
4K | 20
−435%
| 107
+435%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 5.12 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 7.36 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 11.21 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 40−45
−488%
|
240−250
+488%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−603%
|
200−210
+603%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−600%
|
231
+600%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 40−45
−454%
|
227
+454%
|
Battlefield 5 | 65−70
−194%
|
190−200
+194%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−648%
|
217
+648%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−600%
|
231
+600%
|
Far Cry 5 | 46
−385%
|
223
+385%
|
Fortnite | 85−90
−243%
|
300−350
+243%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−421%
|
300−350
+421%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−479%
|
249
+479%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−205%
|
170−180
+205%
|
Valorant | 120−130
−334%
|
550−600
+334%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 40−45
−400%
|
205
+400%
|
Battlefield 5 | 65−70
−194%
|
190−200
+194%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−597%
|
202
+597%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 200−210
−35%
|
270−280
+35%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−536%
|
210
+536%
|
Dota 2 | 121
−106%
|
249
+106%
|
Far Cry 5 | 42
−419%
|
218
+419%
|
Fortnite | 85−90
−243%
|
300−350
+243%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−421%
|
300−350
+421%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−456%
|
239
+456%
|
Grand Theft Auto V | 59
−202%
|
178
+202%
|
Metro Exodus | 26
−719%
|
213
+719%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−205%
|
170−180
+205%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 48
−1035%
|
545
+1035%
|
Valorant | 120−130
−334%
|
550−600
+334%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 65−70
−194%
|
190−200
+194%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−486%
|
170
+486%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−476%
|
190
+476%
|
Dota 2 | 111
−110%
|
233
+110%
|
Far Cry 5 | 39
−423%
|
204
+423%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−421%
|
300−350
+421%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−412%
|
220−230
+412%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−205%
|
170−180
+205%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27
−859%
|
259
+859%
|
Valorant | 120−130
−353%
|
575
+353%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 85−90
−243%
|
300−350
+243%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
−600%
|
120−130
+600%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
−345%
|
500−550
+345%
|
Grand Theft Auto V | 27
−500%
|
162
+500%
|
Metro Exodus | 15
−927%
|
154
+927%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−12.9%
|
170−180
+12.9%
|
Valorant | 150−160
−205%
|
450−500
+205%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
−336%
|
190−200
+336%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−821%
|
129
+821%
|
Far Cry 5 | 26
−673%
|
201
+673%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−685%
|
300−350
+685%
|
Forza Horizon 5 | 27−30
−400%
|
140−150
+400%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
−664%
|
191
+664%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−331%
|
150−160
+331%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 12−14
−592%
|
90−95
+592%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
−1071%
|
82
+1071%
|
Grand Theft Auto V | 25
−640%
|
185
+640%
|
Metro Exodus | 8
−1200%
|
104
+1200%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 16
−1069%
|
187
+1069%
|
Valorant | 85−90
−282%
|
300−350
+282%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21−24
−491%
|
130−140
+491%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
−314%
|
29
+314%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
−950%
|
63
+950%
|
Dota 2 | 40
−468%
|
227
+468%
|
Far Cry 5 | 12
−1067%
|
140
+1067%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−986%
|
300−350
+986%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−400%
|
70−75
+400%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 14−16
−540%
|
95−100
+540%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 16−18
−394%
|
75−80
+394%
|
นี่คือวิธีที่ T600 และ RTX 4080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 325% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 579% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 435% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 1200%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 4080 เหนือกว่า T600 ในการทดสอบทั้ง 64 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 16.65 | 88.80 |
ความใหม่ล่าสุด | 6 พฤษภาคม 2021 | 20 กันยายน 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 40 วัตต์ | 320 วัตต์ |
T600 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 700%
ในทางกลับกัน RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 433.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า T600 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า T600 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ GeForce RTX 4080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป