GeForce GTX 660 Ti เทียบกับ Radeon RX Vega 64
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 64 และ GeForce GTX 660 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX Vega 64 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 660 Ti อย่างมหาศาลถึง 221% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 136 | 429 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 18.88 | 2.75 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.55 | 5.24 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Kepler (2012−2018) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | GK104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 16 สิงหาคม 2012 (เมื่อ 12 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX Vega 64 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 660 Ti อยู่ 587%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4096 | 1344 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1247 MHz | 915 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1546 MHz | 980 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 3,540 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 28 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 Watt | 150 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 395.8 | 109.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.66 TFLOPS | 2.634 TFLOPS |
ROPs | 64 | 24 |
TMUs | 256 | 112 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | ไม่มีข้อมูล | PCI Express 3.0 |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 279 mm | 241 mm |
ความสูง | ไม่มีข้อมูล | 11.1 ซม |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 2x 6-pin |
ตัวเลือก SLI | - | + |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 192-bit GDDR5 |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 945 MHz | 6.0 จีบี/s |
483.8 จีบี/s | 144.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | One Dual Link DVI-I, One Dual Link DVI-D, One HDMI, One DisplayPort |
รองรับหลายจอภาพ | ไม่มีข้อมูล | 4 displays |
HDMI | + | + |
HDCP | - | + |
ความละเอียด VGA สูงสุด | ไม่มีข้อมูล | 2048x1536 |
อินพุตเสียงสำหรับ HDMI | ไม่มีข้อมูล | Internal |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
3D Blu-Ray | - | + |
3D Gaming | - | + |
3D Vision | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (11_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 5.1 |
OpenGL | 4.6 | 4.3 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.1.126 |
CUDA | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 117
+51.9%
| 77
−51.9%
|
1440p | 80
+233%
| 24−27
−233%
|
4K | 53
+231%
| 16−18
−231%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.26
−9.8%
| 3.88
+9.8%
|
1440p | 6.24
+99.7%
| 12.46
−99.7%
|
4K | 9.42
+98.5%
| 18.69
−98.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 100−110
+274%
|
27−30
−274%
|
Counter-Strike 2 | 190−200
+238%
|
55−60
−238%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+255%
|
21−24
−255%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 100−110
+274%
|
27−30
−274%
|
Battlefield 5 | 161
+243%
|
45−50
−243%
|
Counter-Strike 2 | 190−200
+238%
|
55−60
−238%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+255%
|
21−24
−255%
|
Far Cry 5 | 110
+206%
|
35−40
−206%
|
Fortnite | 150−160
+141%
|
60−65
−141%
|
Forza Horizon 4 | 167
+263%
|
45−50
−263%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
+224%
|
30−35
−224%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+261%
|
35−40
−261%
|
Valorant | 315
+221%
|
95−100
−221%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 100−110
+274%
|
27−30
−274%
|
Battlefield 5 | 146
+211%
|
45−50
−211%
|
Counter-Strike 2 | 190−200
+238%
|
55−60
−238%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+44.3%
|
192
−44.3%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+255%
|
21−24
−255%
|
Dota 2 | 150
+100%
|
75−80
−100%
|
Far Cry 5 | 104
+189%
|
35−40
−189%
|
Fortnite | 150−160
+141%
|
60−65
−141%
|
Forza Horizon 4 | 158
+243%
|
45−50
−243%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
+224%
|
30−35
−224%
|
Grand Theft Auto V | 110−120
+185%
|
40−45
−185%
|
Metro Exodus | 73
+232%
|
21−24
−232%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+261%
|
35−40
−261%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 132
+371%
|
27−30
−371%
|
Valorant | 293
+199%
|
95−100
−199%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 139
+196%
|
45−50
−196%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+255%
|
21−24
−255%
|
Dota 2 | 138
+84%
|
75−80
−84%
|
Far Cry 5 | 98
+172%
|
35−40
−172%
|
Forza Horizon 4 | 128
+178%
|
45−50
−178%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+261%
|
35−40
−261%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 77
+175%
|
27−30
−175%
|
Valorant | 140
+42.9%
|
95−100
−42.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+141%
|
60−65
−141%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 85−90
+325%
|
20−22
−325%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
+191%
|
80−85
−191%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
+325%
|
16−18
−325%
|
Metro Exodus | 46
+283%
|
12−14
−283%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+178%
|
60−65
−178%
|
Valorant | 263
+123%
|
110−120
−123%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
+221%
|
27−30
−221%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+322%
|
9−10
−322%
|
Far Cry 5 | 81
+252%
|
21−24
−252%
|
Forza Horizon 4 | 98
+277%
|
24−27
−277%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60−65
+265%
|
16−18
−265%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 85−90
+283%
|
21−24
−283%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 27−30
+200%
|
9−10
−200%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+680%
|
5−6
−680%
|
Grand Theft Auto V | 70−75
+223%
|
21−24
−223%
|
Metro Exodus | 46
+667%
|
6−7
−667%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 48
+269%
|
12−14
−269%
|
Valorant | 205
+260%
|
55−60
−260%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 59
+321%
|
14−16
−321%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+680%
|
5−6
−680%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
+325%
|
4−5
−325%
|
Dota 2 | 96
+146%
|
35−40
−146%
|
Far Cry 5 | 44
+300%
|
10−12
−300%
|
Forza Horizon 4 | 66
+267%
|
18−20
−267%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
+330%
|
10−11
−330%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 40−45
+320%
|
10−11
−320%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 64 และ GTX 660 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 64 เร็วกว่า 52% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 64 เร็วกว่า 233% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 64 เร็วกว่า 231% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 64 เร็วกว่า 680%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX Vega 64 เหนือกว่า GTX 660 Ti ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 31.71 | 9.87 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 สิงหาคม 2017 | 16 สิงหาคม 2012 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 28 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 วัตต์ | 150 วัตต์ |
RX Vega 64 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 221.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
ในทางกลับกัน GTX 660 Ti มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 96.7%
Radeon RX Vega 64 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 660 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ