Radeon RX 570 เทียบกับ Pro Vega 56
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro Vega 56 กับ Radeon RX 570 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
Pro Vega 56 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 570 อย่างน่าประทับใจ 77% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 187 | 323 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 17 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 44.89 | 13.37 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.40 | 10.26 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | GCN 4.0 (2016−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | Polaris 20 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | $169 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
Pro Vega 56 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 570 อยู่ 236%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 2048 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1138 MHz | 1168 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1250 MHz | 1244 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 5,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 Watt | 120 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 280.0 | 159.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 8.96 TFLOPS | 5.095 TFLOPS |
ROPs | 64 | 32 |
TMUs | 224 | 128 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 241 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 6-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 786 MHz | 1750 MHz |
402.4 จีบี/s | 224.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x DVI, 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.1.125 | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 96
+12.9%
| 85
−12.9%
|
1440p | 85−90
+77.1%
| 48
−77.1%
|
4K | 57
+90%
| 30
−90%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.16
−109%
| 1.99
+109%
|
1440p | 4.69
−33.3%
| 3.52
+33.3%
|
4K | 7.00
−24.3%
| 5.63
+24.3%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 170−180
+78.4%
|
95−100
−78.4%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
+86.1%
|
35−40
−86.1%
|
Hogwarts Legacy | 65−70
+106%
|
30−35
−106%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 110−120
+27.3%
|
88
−27.3%
|
Counter-Strike 2 | 170−180
+78.4%
|
95−100
−78.4%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
+86.1%
|
35−40
−86.1%
|
Far Cry 5 | 95−100
+27.3%
|
77
−27.3%
|
Fortnite | 130−140
−72.5%
|
238
+72.5%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+17%
|
100
−17%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
+75.9%
|
50−55
−75.9%
|
Hogwarts Legacy | 65−70
+106%
|
30−35
−106%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
+25%
|
96
−25%
|
Valorant | 190−200
+42.9%
|
130−140
−42.9%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 110−120
+49.3%
|
75
−49.3%
|
Counter-Strike 2 | 170−180
+78.4%
|
95−100
−78.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+27.4%
|
210−220
−27.4%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
+86.1%
|
35−40
−86.1%
|
Dota 2 | 107
+5.9%
|
100−110
−5.9%
|
Far Cry 5 | 95−100
+40%
|
70
−40%
|
Fortnite | 130−140
+45.3%
|
95
−45.3%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+24.5%
|
94
−24.5%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
+75.9%
|
50−55
−75.9%
|
Grand Theft Auto V | 100−110
+43.8%
|
73
−43.8%
|
Hogwarts Legacy | 65−70
+106%
|
30−35
−106%
|
Metro Exodus | 65−70
+58.1%
|
43
−58.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
+37.9%
|
87
−37.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 116
+50.6%
|
77
−50.6%
|
Valorant | 190−200
+42.9%
|
130−140
−42.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
+64.7%
|
68
−64.7%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
+86.1%
|
35−40
−86.1%
|
Dota 2 | 102
+1%
|
100−110
−1%
|
Far Cry 5 | 95−100
+50.8%
|
65
−50.8%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+56%
|
75
−56%
|
Hogwarts Legacy | 65−70
+106%
|
30−35
−106%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
+73.9%
|
69
−73.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 64
+48.8%
|
43
−48.8%
|
Valorant | 190−200
+42.9%
|
130−140
−42.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 130−140
+91.7%
|
72
−91.7%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 70−75
+109%
|
30−35
−109%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 200−210
+67.7%
|
120−130
−67.7%
|
Grand Theft Auto V | 55−60
+104%
|
27−30
−104%
|
Metro Exodus | 40−45
+68%
|
25
−68%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+5.4%
|
160−170
−5.4%
|
Valorant | 220−230
+36.5%
|
160−170
−36.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80−85
+55.8%
|
52
−55.8%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+100%
|
16−18
−100%
|
Far Cry 5 | 70−75
+52.2%
|
46
−52.2%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+37.3%
|
59
−37.3%
|
Hogwarts Legacy | 30−35
+88.9%
|
18−20
−88.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 50−55
+104%
|
24−27
−104%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+66.7%
|
45
−66.7%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
+136%
|
14−16
−136%
|
Grand Theft Auto V | 55−60
+96.7%
|
30
−96.7%
|
Hogwarts Legacy | 18−20
+72.7%
|
10−12
−72.7%
|
Metro Exodus | 24−27
+62.5%
|
16
−62.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 42
+50%
|
28
−50%
|
Valorant | 180−190
+89.5%
|
95−100
−89.5%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
+51.6%
|
31
−51.6%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+136%
|
14−16
−136%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
+100%
|
7−8
−100%
|
Dota 2 | 96
+62.7%
|
55−60
−62.7%
|
Far Cry 5 | 35−40
+50%
|
24
−50%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
+38.5%
|
39
−38.5%
|
Hogwarts Legacy | 18−20
+72.7%
|
10−12
−72.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
+29.6%
|
27
−29.6%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 35−40
+52.2%
|
23
−52.2%
|
นี่คือวิธีที่ Pro Vega 56 และ RX 570 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Pro Vega 56 เร็วกว่า 13% ในความละเอียด 1080p
- Pro Vega 56 เร็วกว่า 77% ในความละเอียด 1440p
- Pro Vega 56 เร็วกว่า 90% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Pro Vega 56 เร็วกว่า 136%
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 570 เร็วกว่า 72%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Pro Vega 56 เหนือกว่าใน 65การทดสอบ (98%)
- RX 570 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 29.75 | 16.78 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 สิงหาคม 2017 | 18 เมษายน 2017 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 วัตต์ | 120 วัตต์ |
Pro Vega 56 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 77.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 เดือน
ในทางกลับกัน RX 570 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 75%
Radeon Pro Vega 56 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 570 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro Vega 56 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ Radeon RX 570 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป