GeForce RTX 5060 เทียบกับ Radeon 660M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon 660M กับ GeForce RTX 5060 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 5060 มีประสิทธิภาพดีกว่า 660M อย่างมหาศาลถึง 540% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 534 | 62 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.98 | 26.44 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Rembrandt+ | GB206 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 19 พฤษภาคม 2025 (เร็ว ๆ นี้) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 384 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 2280 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1900 MHz | 2497 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,100 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 40 Watt | 145 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 45.60 | 299.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.459 TFLOPS | 19.18 TFLOPS |
ROPs | 16 | 48 |
TMUs | 24 | 120 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 120 |
Ray Tracing Cores | 6 | 30 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 241 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | System Shared | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | System Shared | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | System Shared | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | System Shared | 1750 MHz |
ไม่มีข้อมูล | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | - | 12.0 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 25
−516%
| 154
+516%
|
1440p | 12−14
−550%
| 78
+550%
|
4K | 8−9
−550%
| 52
+550%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 1.94 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 3.83 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 5.75 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
−548%
|
270−280
+548%
|
Cyberpunk 2077 | 24
−421%
|
120−130
+421%
|
Dead Island 2 | 37
−543%
|
230−240
+543%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 35−40
−328%
|
150−160
+328%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−548%
|
270−280
+548%
|
Cyberpunk 2077 | 20
−525%
|
120−130
+525%
|
Dead Island 2 | 30
−693%
|
230−240
+693%
|
Far Cry 5 | 30
−733%
|
250
+733%
|
Fortnite | 45−50
−359%
|
220−230
+359%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−450%
|
190−200
+450%
|
Forza Horizon 5 | 39
−303%
|
150−160
+303%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−503%
|
170−180
+503%
|
Valorant | 80−85
−241%
|
280−290
+241%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 35−40
−328%
|
150−160
+328%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−548%
|
270−280
+548%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
−119%
|
270−280
+119%
|
Cyberpunk 2077 | 14
−793%
|
120−130
+793%
|
Dead Island 2 | 22
−982%
|
230−240
+982%
|
Dota 2 | 56
−525%
|
350−400
+525%
|
Far Cry 5 | 26
−777%
|
228
+777%
|
Fortnite | 45−50
−359%
|
220−230
+359%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−450%
|
190−200
+450%
|
Forza Horizon 5 | 32
−391%
|
150−160
+391%
|
Grand Theft Auto V | 24
−533%
|
150−160
+533%
|
Metro Exodus | 15
−753%
|
120−130
+753%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−503%
|
170−180
+503%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 25
−1044%
|
286
+1044%
|
Valorant | 80−85
−241%
|
280−290
+241%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
−328%
|
150−160
+328%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−635%
|
120−130
+635%
|
Dead Island 2 | 15
−1487%
|
230−240
+1487%
|
Dota 2 | 48
−525%
|
300−310
+525%
|
Far Cry 5 | 25
−752%
|
213
+752%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−450%
|
190−200
+450%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−503%
|
170−180
+503%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 15
−853%
|
143
+853%
|
Valorant | 80−85
−241%
|
280−290
+241%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 45−50
−359%
|
220−230
+359%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 14−16
−936%
|
140−150
+936%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 60−65
−495%
|
350−400
+495%
|
Grand Theft Auto V | 10−12
−891%
|
100−110
+891%
|
Metro Exodus | 9−10
−800%
|
80−85
+800%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−317%
|
170−180
+317%
|
Valorant | 90−95
−246%
|
300−350
+246%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 18−20
−600%
|
120−130
+600%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−857%
|
65−70
+857%
|
Dead Island 2 | 14−16
−764%
|
120−130
+764%
|
Far Cry 5 | 16−18
−753%
|
145
+753%
|
Forza Horizon 4 | 18−20
−742%
|
160−170
+742%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12−14
−783%
|
106
+783%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 16−18
−741%
|
140−150
+741%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 1−2
−6400%
|
65−70
+6400%
|
Dead Island 2 | 9−10
−511%
|
55−60
+511%
|
Grand Theft Auto V | 18−20
−542%
|
120−130
+542%
|
Metro Exodus | 3−4
−1567%
|
50−55
+1567%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 8−9
−1038%
|
91
+1038%
|
Valorant | 40−45
−612%
|
290−300
+612%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 9−10
−856%
|
85−90
+856%
|
Counter-Strike 2 | 1−2
−6400%
|
65−70
+6400%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−933%
|
30−35
+933%
|
Dead Island 2 | 9−10
−489%
|
50−55
+489%
|
Dota 2 | 30−33
−533%
|
190−200
+533%
|
Far Cry 5 | 8−9
−838%
|
75
+838%
|
Forza Horizon 4 | 12−14
−762%
|
110−120
+762%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 8−9
−975%
|
85−90
+975%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 8−9
−838%
|
75−80
+838%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon 660M และ RTX 5060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5060 เร็วกว่า 516% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5060 เร็วกว่า 550% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5060 เร็วกว่า 550% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5060 เร็วกว่า 6400%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 5060 เหนือกว่า Radeon 660M ในการทดสอบทั้ง 62 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 8.40 | 53.73 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 มกราคม 2023 | 19 พฤษภาคม 2025 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 40 วัตต์ | 145 วัตต์ |
Radeon 660M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 262.5%
ในทางกลับกัน RTX 5060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 539.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
GeForce RTX 5060 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 660M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon 660M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 5060 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป