Radeon RX 9070 เทียบกับ GeForce RTX 5060 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 5060 Ti และ Radeon RX 9070 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 9070 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 5060 Ti เล็กน้อย 9% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 49 | 39 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 88.06 | 61.93 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 22.32 | 19.89 |
สถาปัตยกรรม | Blackwell 2.0 (2025) | RDNA 4.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | GB206 | Navi 48 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 16 เมษายน 2025 (เร็ว ๆ นี้) | 6 มีนาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $379 | $549 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 9070 อยู่ 42%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4608 | 3584 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2407 MHz | 1330 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2572 MHz | 2520 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 21,900 million | 53,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 180 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 370.4 | 564.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 23.7 TFLOPS | 36.13 TFLOPS |
ROPs | 48 | 128 |
TMUs | 144 | 224 |
Tensor Cores | 144 | 112 |
Ray Tracing Cores | 36 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 5.0 x8 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR7 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 2518 MHz |
448.0 จีบี/s | 644.6 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.4 | 1.3 |
CUDA | 12.0 | - |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 171
−14.6%
| 196
+14.6%
|
1440p | 86
−38.4%
| 119
+38.4%
|
4K | 54
−38.9%
| 75
+38.9%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.22
+26.4%
| 2.80
−26.4%
|
1440p | 4.41
+4.7%
| 4.61
−4.7%
|
4K | 7.02
+4.3%
| 7.32
−4.3%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Baldur's Gate 3 | 219
−42%
|
311
+42%
|
Counter-Strike 2 | 280−290
−6%
|
290−300
+6%
|
Cyberpunk 2077 | 130−140
−11.3%
|
140−150
+11.3%
|
Full HD
Medium Preset
Baldur's Gate 3 | 173
−41%
|
244
+41%
|
Battlefield 5 | 150−160
−5%
|
160−170
+5%
|
Counter-Strike 2 | 280−290
−6%
|
290−300
+6%
|
Cyberpunk 2077 | 130−140
−11.3%
|
140−150
+11.3%
|
Far Cry 5 | 270
−8.5%
|
293
+8.5%
|
Fortnite | 240−250
−16.2%
|
280−290
+16.2%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−11%
|
230−240
+11%
|
Forza Horizon 5 | 160−170
−8.7%
|
170−180
+8.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 290−300
−10.8%
|
300−350
+10.8%
|
Full HD
High Preset
Baldur's Gate 3 | 148
−41.2%
|
209
+41.2%
|
Battlefield 5 | 150−160
−5%
|
160−170
+5%
|
Counter-Strike 2 | 280−290
−6%
|
290−300
+6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 130−140
−11.3%
|
140−150
+11.3%
|
Far Cry 5 | 248
−14.5%
|
284
+14.5%
|
Fortnite | 240−250
−16.2%
|
280−290
+16.2%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−11%
|
230−240
+11%
|
Forza Horizon 5 | 160−170
−8.7%
|
170−180
+8.7%
|
Grand Theft Auto V | 150−160
−4.5%
|
160−170
+4.5%
|
Metro Exodus | 130−140
−11%
|
150−160
+11%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 332
−33.4%
|
443
+33.4%
|
Valorant | 290−300
−10.8%
|
300−350
+10.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 141
−44.7%
|
204
+44.7%
|
Battlefield 5 | 150−160
−5%
|
160−170
+5%
|
Cyberpunk 2077 | 130−140
−11.3%
|
140−150
+11.3%
|
Far Cry 5 | 232
−15.9%
|
269
+15.9%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−11%
|
230−240
+11%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 158
−58.2%
|
250
+58.2%
|
Valorant | 290−300
−10.8%
|
300−350
+10.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 240−250
−16.2%
|
280−290
+16.2%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 150−160
−13.6%
|
170−180
+13.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 350−400
−13.5%
|
400−450
+13.5%
|
Grand Theft Auto V | 110−120
−10.4%
|
120−130
+10.4%
|
Metro Exodus | 85−90
−14%
|
95−100
+14%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 300−350
−14.9%
|
350−400
+14.9%
|
1440p
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 99
−48.5%
|
147
+48.5%
|
Battlefield 5 | 130−140
−11.4%
|
140−150
+11.4%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−13.9%
|
80−85
+13.9%
|
Far Cry 5 | 161
−51.6%
|
244
+51.6%
|
Forza Horizon 4 | 170−180
−14.6%
|
190−200
+14.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 119
−60.5%
|
191
+60.5%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
−0.7%
|
150−160
+0.7%
|
4K
High Preset
Baldur's Gate 3 | 85
+26.9%
|
65−70
−26.9%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−12.9%
|
75−80
+12.9%
|
Grand Theft Auto V | 120−130
−11.6%
|
140−150
+11.6%
|
Metro Exodus | 50−55
−14.8%
|
60−65
+14.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 101
−64.4%
|
166
+64.4%
|
Valorant | 300−350
−4.9%
|
300−350
+4.9%
|
4K
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 52
−51.9%
|
79
+51.9%
|
Battlefield 5 | 90−95
−14.1%
|
100−110
+14.1%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−12.9%
|
75−80
+12.9%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−14.7%
|
35−40
+14.7%
|
Far Cry 5 | 84
−59.5%
|
134
+59.5%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−19.7%
|
140−150
+19.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
−1.1%
|
95−100
+1.1%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 5060 Ti และ RX 9070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 9070 เร็วกว่า 15% ในความละเอียด 1080p
- RX 9070 เร็วกว่า 38% ในความละเอียด 1440p
- RX 9070 เร็วกว่า 39% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Baldur's Gate 3 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5060 Ti เร็วกว่า 27%
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 9070 เร็วกว่า 64%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 5060 Ti เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RX 9070 เหนือกว่าใน 56การทดสอบ (89%)
- เสมอกันใน 6การทดสอบ (10%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 56.78 | 61.86 |
ความใหม่ล่าสุด | 16 เมษายน 2025 | 6 มีนาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 180 วัตต์ | 220 วัตต์ |
RTX 5060 Ti มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 22.2%
ในทางกลับกัน RX 9070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 8.9% และ
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง GeForce RTX 5060 Ti และ Radeon RX 9070 ได้อย่างชัดเจน