Radeon RX 9070 เทียบกับ GeForce RTX 5070 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 5070 Ti และ Radeon RX 9070 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 9070 อย่างมหาศาล 31% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 7 | 40 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 55.35 | 62.60 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.36 | 20.10 |
สถาปัตยกรรม | Blackwell 2.0 (2025) | RDNA 4.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | GB203 | Navi 48 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กุมภาพันธ์ 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) | 6 มีนาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $749 | $549 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 9070 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 5070 Ti อยู่ 13%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 8960 | 3584 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2295 MHz | 1330 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2452 MHz | 2520 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 45,600 million | 53,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 686.6 | 564.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 43.94 TFLOPS | 36.13 TFLOPS |
ROPs | 96 | 128 |
TMUs | 280 | 224 |
Tensor Cores | 280 | 112 |
Ray Tracing Cores | 70 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 5.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 304 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR7 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 2518 MHz |
896.0 จีบี/s | 644.6 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.4 | 1.3 |
CUDA | 12.0 | - |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 224
+14.3%
| 196
−14.3%
|
1440p | 133
+11.8%
| 119
−11.8%
|
4K | 88
+17.3%
| 75
−17.3%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.34
−19.4%
| 2.80
+19.4%
|
1440p | 5.63
−22.1%
| 4.61
+22.1%
|
4K | 8.51
−16.3%
| 7.32
+16.3%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 300−350
+10.3%
|
300−310
−10.3%
|
Cyberpunk 2077 | 200−210
+36.2%
|
140−150
−36.2%
|
Hogwarts Legacy | 221
−19.5%
|
264
+19.5%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 190−200
+18%
|
160−170
−18%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+10.3%
|
300−310
−10.3%
|
Cyberpunk 2077 | 200−210
+36.2%
|
140−150
−36.2%
|
Far Cry 5 | 326
+11.3%
|
293
−11.3%
|
Fortnite | 300−350
+7.1%
|
280−290
−7.1%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+41%
|
230−240
−41%
|
Forza Horizon 5 | 220−230
+26.1%
|
170−180
−26.1%
|
Hogwarts Legacy | 198
−16.7%
|
231
+16.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 500−550
+50.9%
|
300−350
−50.9%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 190−200
+18%
|
160−170
−18%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+10.3%
|
300−310
−10.3%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 200−210
+36.2%
|
140−150
−36.2%
|
Far Cry 5 | 310
+9.2%
|
284
−9.2%
|
Fortnite | 300−350
+7.1%
|
280−290
−7.1%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+41%
|
230−240
−41%
|
Forza Horizon 5 | 220−230
+26.1%
|
170−180
−26.1%
|
Grand Theft Auto V | 170−180
+6.1%
|
160−170
−6.1%
|
Hogwarts Legacy | 178
−1.1%
|
180
+1.1%
|
Metro Exodus | 241
+58.6%
|
150−160
−58.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 529
+19.4%
|
443
−19.4%
|
Valorant | 500−550
+50.9%
|
300−350
−50.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+18%
|
160−170
−18%
|
Cyberpunk 2077 | 200−210
+36.2%
|
140−150
−36.2%
|
Far Cry 5 | 294
+9.3%
|
269
−9.3%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+41%
|
230−240
−41%
|
Hogwarts Legacy | 135
+1.5%
|
133
−1.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 246
−1.6%
|
250
+1.6%
|
Valorant | 500−550
+50.9%
|
300−350
−50.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+7.1%
|
280−290
−7.1%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 250−260
+44.4%
|
170−180
−44.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+14.7%
|
450−500
−14.7%
|
Grand Theft Auto V | 150−160
+26.2%
|
120−130
−26.2%
|
Metro Exodus | 153
+54.5%
|
95−100
−54.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+24.4%
|
350−400
−24.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+32.4%
|
140−150
−32.4%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
+49.4%
|
80−85
−49.4%
|
Far Cry 5 | 251
+2.9%
|
244
−2.9%
|
Forza Horizon 4 | 290−300
+49.7%
|
190−200
−49.7%
|
Hogwarts Legacy | 102
−2.9%
|
105
+2.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 203
+6.3%
|
191
−6.3%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 110−120
+46.3%
|
80−85
−46.3%
|
Grand Theft Auto V | 180−190
+27.6%
|
140−150
−27.6%
|
Hogwarts Legacy | 79
+83.7%
|
40−45
−83.7%
|
Metro Exodus | 101
+60.3%
|
60−65
−60.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 190
+14.5%
|
166
−14.5%
|
Valorant | 300−350
+2.2%
|
300−350
−2.2%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+28.3%
|
100−110
−28.3%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
+46.3%
|
80−85
−46.3%
|
Cyberpunk 2077 | 60−65
+56.4%
|
35−40
−56.4%
|
Far Cry 5 | 144
+7.5%
|
134
−7.5%
|
Forza Horizon 4 | 260−270
+81.1%
|
140−150
−81.1%
|
Hogwarts Legacy | 63
+3.3%
|
61
−3.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 5070 Ti และ RX 9070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 14% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 12% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 17% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Hogwarts Legacy ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5070 Ti เร็วกว่า 84%
- ในเกม Hogwarts Legacy ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RX 9070 เร็วกว่า 19%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 Ti เหนือกว่าใน 50การทดสอบ (79%)
- RX 9070 เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (8%)
- เสมอกันใน 8การทดสอบ (13%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 77.85 | 59.27 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 วัตต์ | 220 วัตต์ |
RTX 5070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 31.3%
ในทางกลับกัน RX 9070 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 36.4%
GeForce RTX 5070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 9070 ในการทดสอบประสิทธิภาพ