RTX A500 Mobile เทียบกับ GeForce RTX 4080
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4080 กับ RTX A500 Mobile รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX A500 Mobile อย่างมหาศาลถึง 415% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 4 | 324 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 29.10 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.28 | 19.96 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | AD103 | GA107S |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชันแบบพกพา |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 22 มีนาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,199 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 9728 | 2048 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2205 MHz | 832 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2505 MHz | 1537 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 45,900 million | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 Watt | 60 Watt (20 - 60 Watt TGP) |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 761.5 | 98.37 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 48.74 TFLOPS | 6.296 TFLOPS |
ROPs | 112 | 48 |
TMUs | 304 | 64 |
Tensor Cores | 304 | 64 |
Ray Tracing Cores | 76 | 16 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 310 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 3-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1400 MHz | 1500 MHz |
716.8 จีบี/s | 96 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | No outputs |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | 8.6 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 234
+409%
| 46
−409%
|
1440p | 163
+609%
| 23
−609%
|
4K | 107
+2575%
| 4
−2575%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.12 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 7.36 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 11.21 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 240−250
+460%
|
40−45
−460%
|
Counter-Strike 2 | 200−210
+386%
|
42
−386%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+579%
|
30−35
−579%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 227
+428%
|
40−45
−428%
|
Battlefield 5 | 190−200
+181%
|
70−75
−181%
|
Counter-Strike 2 | 217
+578%
|
32
−578%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+579%
|
30−35
−579%
|
Far Cry 5 | 223
+313%
|
54
−313%
|
Fortnite | 300−350
+236%
|
90−95
−236%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+406%
|
65−70
−406%
|
Forza Horizon 5 | 249
+453%
|
45−50
−453%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+190%
|
60−65
−190%
|
Valorant | 550−600
+327%
|
120−130
−327%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 205
+377%
|
40−45
−377%
|
Battlefield 5 | 190−200
+181%
|
70−75
−181%
|
Counter-Strike 2 | 202
+742%
|
24
−742%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+31.8%
|
210−220
−31.8%
|
Cyberpunk 2077 | 210
+518%
|
30−35
−518%
|
Dota 2 | 249
+152%
|
95−100
−152%
|
Far Cry 5 | 218
+354%
|
48
−354%
|
Fortnite | 300−350
+236%
|
90−95
−236%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+406%
|
65−70
−406%
|
Forza Horizon 5 | 239
+431%
|
45−50
−431%
|
Grand Theft Auto V | 178
+170%
|
66
−170%
|
Metro Exodus | 213
+509%
|
35−40
−509%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+190%
|
60−65
−190%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 545
+891%
|
55
−891%
|
Valorant | 550−600
+327%
|
120−130
−327%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+181%
|
70−75
−181%
|
Counter-Strike 2 | 170
+750%
|
20
−750%
|
Cyberpunk 2077 | 190
+459%
|
30−35
−459%
|
Dota 2 | 233
+135%
|
95−100
−135%
|
Far Cry 5 | 204
+364%
|
44
−364%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+406%
|
65−70
−406%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+190%
|
60−65
−190%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 259
+793%
|
29
−793%
|
Valorant | 575
+346%
|
120−130
−346%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+236%
|
90−95
−236%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 120−130
+574%
|
18−20
−574%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+330%
|
120−130
−330%
|
Grand Theft Auto V | 162
+440%
|
30
−440%
|
Metro Exodus | 154
+633%
|
21−24
−633%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+8.7%
|
160−170
−8.7%
|
Valorant | 450−500
+198%
|
160−170
−198%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+326%
|
45−50
−326%
|
Cyberpunk 2077 | 129
+760%
|
14−16
−760%
|
Far Cry 5 | 201
+458%
|
35−40
−458%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+646%
|
40−45
−646%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 191
+635%
|
24−27
−635%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+308%
|
35−40
−308%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 90−95
+592%
|
12−14
−592%
|
Counter-Strike 2 | 82
+925%
|
8−9
−925%
|
Grand Theft Auto V | 185
+517%
|
30−33
−517%
|
Metro Exodus | 104
+700%
|
12−14
−700%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 187
+713%
|
21−24
−713%
|
Valorant | 300−350
+265%
|
90−95
−265%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+467%
|
24−27
−467%
|
Counter-Strike 2 | 29
+1350%
|
2
−1350%
|
Cyberpunk 2077 | 63
+950%
|
6−7
−950%
|
Dota 2 | 227
+291%
|
55−60
−291%
|
Far Cry 5 | 140
+724%
|
16−18
−724%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+945%
|
27−30
−945%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+500%
|
16−18
−500%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+394%
|
16−18
−394%
|
Full HD
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 45−50
+0%
|
45−50
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 27−30
+0%
|
27−30
+0%
|
4K
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 14−16
+0%
|
14−16
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4080 และ RTX A500 Mobile แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 409% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 609% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 2575% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 1350%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เหนือกว่าใน 64การทดสอบ (96%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (4%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 89.75 | 17.42 |
ความใหม่ล่าสุด | 20 กันยายน 2022 | 22 มีนาคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 4 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 5 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 วัตต์ | 60 วัตต์ |
RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 415.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 เดือนและและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%
ในทางกลับกัน RTX A500 Mobile มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 433.3%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX A500 Mobile ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 4080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ RTX A500 Mobile เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา