Radeon RX 7600S เทียบกับ GeForce RTX 4070 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4070 Ti กับ Radeon RX 7600S รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 7600S อย่างมหาศาลถึง 108% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 10 | 116 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 49.03 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.83 | 36.17 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | AD104 | Navi 33 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 4 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $799 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 7680 | 1792 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2310 MHz | 1500 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2610 MHz | 2200 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 35,800 million | 13,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 4 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 285 Watt | 75 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 626.4 | 246.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 40.09 TFLOPS | 15.77 TFLOPS |
ROPs | 80 | 64 |
TMUs | 240 | 112 |
Tensor Cores | 240 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 60 | 28 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 285 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1313 MHz | 2000 MHz |
504.2 จีบี/s | 256.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 223
+119%
| 102
−119%
|
1440p | 139
+162%
| 53
−162%
|
4K | 87
+222%
| 27
−222%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.58 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 5.75 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 9.18 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 316
+89.2%
|
167
−89.2%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+57.9%
|
200−210
−57.9%
|
Cyberpunk 2077 | 236
+178%
|
85−90
−178%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 253
+101%
|
126
−101%
|
Battlefield 5 | 190−200
+50.8%
|
120−130
−50.8%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+72.8%
|
191
−72.8%
|
Cyberpunk 2077 | 218
+112%
|
103
−112%
|
Far Cry 5 | 211
+90.1%
|
111
−90.1%
|
Fortnite | 300−350
+87.6%
|
160−170
−87.6%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+123%
|
140−150
−123%
|
Forza Horizon 5 | 244
+69.4%
|
144
−69.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+21.2%
|
140−150
−21.2%
|
Valorant | 450−500
+117%
|
210−220
−117%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 180
+150%
|
72
−150%
|
Battlefield 5 | 190−200
+50.8%
|
120−130
−50.8%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+160%
|
127
−160%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0.4%
|
270−280
−0.4%
|
Cyberpunk 2077 | 185
+120%
|
84
−120%
|
Dota 2 | 259
+129%
|
113
−129%
|
Far Cry 5 | 203
+89.7%
|
107
−89.7%
|
Fortnite | 300−350
+87.6%
|
160−170
−87.6%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+123%
|
140−150
−123%
|
Forza Horizon 5 | 228
+68.9%
|
135
−68.9%
|
Grand Theft Auto V | 178
+41.3%
|
126
−41.3%
|
Metro Exodus | 197
+405%
|
39
−405%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+21.2%
|
140−150
−21.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 453
+185%
|
159
−185%
|
Valorant | 450−500
+117%
|
210−220
−117%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+50.8%
|
120−130
−50.8%
|
Cyberpunk 2077 | 167
+139%
|
70
−139%
|
Dota 2 | 243
+121%
|
110
−121%
|
Far Cry 5 | 189
+85.3%
|
102
−85.3%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+123%
|
140−150
−123%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+21.2%
|
140−150
−21.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 221
+133%
|
95
−133%
|
Valorant | 450−500
+163%
|
179
−163%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+87.6%
|
160−170
−87.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 240−250
+284%
|
64
−284%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+105%
|
250−260
−105%
|
Grand Theft Auto V | 156
+111%
|
70−75
−111%
|
Metro Exodus | 131
+147%
|
50−55
−147%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+94%
|
250−260
−94%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+106%
|
95−100
−106%
|
Cyberpunk 2077 | 105
+144%
|
43
−144%
|
Far Cry 5 | 182
+107%
|
85−90
−107%
|
Forza Horizon 4 | 280−290
+170%
|
100−110
−170%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 190−200
+191%
|
65−70
−191%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+57.3%
|
95−100
−57.3%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 75−80
+157%
|
30−33
−157%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
+559%
|
17
−559%
|
Grand Theft Auto V | 172
+121%
|
75−80
−121%
|
Metro Exodus | 84
+155%
|
30−35
−155%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 149
+157%
|
55−60
−157%
|
Valorant | 300−350
+48.9%
|
220−230
−48.9%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+134%
|
55−60
−134%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
+160%
|
40−45
−160%
|
Cyberpunk 2077 | 48
+167%
|
18
−167%
|
Dota 2 | 226
+111%
|
100−110
−111%
|
Far Cry 5 | 111
+131%
|
45−50
−131%
|
Forza Horizon 4 | 240−250
+259%
|
65−70
−259%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+100%
|
45−50
−100%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+68.1%
|
45−50
−68.1%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4070 Ti และ RX 7600S แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 119% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 162% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 222% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti เร็วกว่า 559%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 71.00 | 34.07 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 4 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 285 วัตต์ | 75 วัตต์ |
RTX 4070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 108.4% และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%
ในทางกลับกัน RX 7600S มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 280%
GeForce RTX 4070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 7600S ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 4070 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon RX 7600S เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก