Radeon RX 7900 XTX เทียบกับ GeForce RTX 4060
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4060 และ Radeon RX 7900 XTX โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7900 XTX มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4060 อย่างน่าประทับใจ 57% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 58 | 9 |
จัดอันดับตามความนิยม | 2 | 53 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 100.00 | 34.83 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 30.66 | 15.60 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | AD107 | Navi 31 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 3 พฤศจิกายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $299 | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4060 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 7900 XTX อยู่ 187%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3072 | 6144 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1830 MHz | 1929 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2460 MHz | 2498 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,900 million | 57,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 115 Watt | 355 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 236.2 | 959.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 15.11 TFLOPS | 61.39 TFLOPS |
ROPs | 48 | 192 |
TMUs | 96 | 384 |
Tensor Cores | 96 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 24 | 96 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 240 mm | 287 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 24 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2125 MHz | 2500 MHz |
272.0 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 135
−80%
| 243
+80%
|
1440p | 66
−148%
| 164
+148%
|
4K | 38
−166%
| 101
+166%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.21
+85.6%
| 4.11
−85.6%
|
1440p | 4.53
+34.5%
| 6.09
−34.5%
|
4K | 7.87
+25.7%
| 9.89
−25.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 213
−68.5%
|
359
+68.5%
|
Counter-Strike 2 | 135
−58.5%
|
214
+58.5%
|
Cyberpunk 2077 | 139
−79.9%
|
250
+79.9%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 159
−82.4%
|
290
+82.4%
|
Battlefield 5 | 140−150
−28.4%
|
190−200
+28.4%
|
Counter-Strike 2 | 109
−121%
|
241
+121%
|
Cyberpunk 2077 | 107
−124%
|
240
+124%
|
Far Cry 5 | 185
−14.6%
|
212
+14.6%
|
Fortnite | 200−210
−48%
|
300−350
+48%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−85.7%
|
338
+85.7%
|
Forza Horizon 5 | 238
−13%
|
269
+13%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
Valorant | 260−270
−71.9%
|
450−500
+71.9%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 94
−112%
|
199
+112%
|
Battlefield 5 | 140−150
−28.4%
|
190−200
+28.4%
|
Counter-Strike 2 | 91
−142%
|
220
+142%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 90
−141%
|
217
+141%
|
Far Cry 5 | 169
−21.3%
|
205
+21.3%
|
Fortnite | 200−210
−48%
|
300−350
+48%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−81.3%
|
330
+81.3%
|
Forza Horizon 5 | 221
−14.9%
|
254
+14.9%
|
Grand Theft Auto V | 155
−12.9%
|
175
+12.9%
|
Metro Exodus | 107
−123%
|
239
+123%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 215
−153%
|
545
+153%
|
Valorant | 260−270
−71.9%
|
450−500
+71.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 140−150
−28.4%
|
190−200
+28.4%
|
Counter-Strike 2 | 76
−171%
|
206
+171%
|
Cyberpunk 2077 | 80
−159%
|
207
+159%
|
Far Cry 5 | 159
−18.9%
|
189
+18.9%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−62.1%
|
295
+62.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 111
−168%
|
298
+168%
|
Valorant | 260−270
−71.9%
|
450−500
+71.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 200−210
−48%
|
300−350
+48%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−151%
|
90−95
+151%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−55.9%
|
500−550
+55.9%
|
Grand Theft Auto V | 90
−83.3%
|
165
+83.3%
|
Metro Exodus | 63
−156%
|
161
+156%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 290−300
−65.5%
|
450−500
+65.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−67.5%
|
190−200
+67.5%
|
Cyberpunk 2077 | 48
−204%
|
146
+204%
|
Far Cry 5 | 109
−71.6%
|
187
+71.6%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−101%
|
290
+101%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 80
−203%
|
242
+203%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−16.2%
|
150−160
+16.2%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 40−45
−87.5%
|
75−80
+87.5%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−152%
|
60−65
+152%
|
Grand Theft Auto V | 89
−109%
|
186
+109%
|
Metro Exodus | 38
−184%
|
108
+184%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 67
−199%
|
200
+199%
|
Valorant | 280−290
−17.7%
|
300−350
+17.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−74.4%
|
130−140
+74.4%
|
Counter-Strike 2 | 9
−511%
|
55
+511%
|
Cyberpunk 2077 | 20
−265%
|
73
+265%
|
Far Cry 5 | 54
−194%
|
159
+194%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−129%
|
227
+129%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 75−80
−28%
|
95−100
+28%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 65−70
−17.9%
|
75−80
+17.9%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 197
+0%
|
197
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 178
+0%
|
178
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 159
+0%
|
159
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4060 และ RX 7900 XTX แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 80% ในความละเอียด 1080p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 148% ในความละเอียด 1440p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 166% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7900 XTX เร็วกว่า 511%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (92%)
- เสมอกันใน 5การทดสอบ (8%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 51.29 | 80.55 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 พฤษภาคม 2023 | 3 พฤศจิกายน 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 24 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 115 วัตต์ | 355 วัตต์ |
RTX 4060 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 208.7%
ในทางกลับกัน RX 7900 XTX มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 57% และ
Radeon RX 7900 XTX เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 4060 ในการทดสอบประสิทธิภาพ