RTX 6000 Ada Generation เทียบกับ GeForce RTX 3080
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3080 กับ RTX 6000 Ada Generation รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 6000 Ada Generation มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 3080 อย่างปานกลาง 13% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 29 | 16 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 46.44 | 7.58 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.08 | 17.00 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA102 | AD102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 3 ธันวาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $699 | $6,799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3080 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 6000 Ada Generation อยู่ 513%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 8704 | 18176 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1440 MHz | 915 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1710 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 28,300 million | 76,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 465.1 | 1,423 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 29.77 TFLOPS | 91.06 TFLOPS |
ROPs | 96 | 192 |
TMUs | 272 | 568 |
Tensor Cores | 272 | 568 |
Ray Tracing Cores | 68 | 142 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 285 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 10 จีบี | 48 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 320 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1188 MHz | 2500 MHz |
760.3 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 4x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.5 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 167
−10.2%
| 184
+10.2%
|
1440p | 126
−28.6%
| 162
+28.6%
|
4K | 88
−26.1%
| 111
+26.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.19
+783%
| 36.95
−783%
|
1440p | 5.55
+657%
| 41.97
−657%
|
4K | 7.94
+671%
| 61.25
−671%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 307
+46.2%
|
210−220
−46.2%
|
Counter-Strike 2 | 150−160
−6.5%
|
164
+6.5%
|
Cyberpunk 2077 | 150−160
−14.6%
|
170−180
+14.6%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 239
+13.8%
|
210−220
−13.8%
|
Battlefield 5 | 172
−4.7%
|
180−190
+4.7%
|
Counter-Strike 2 | 150−160
−5.8%
|
163
+5.8%
|
Cyberpunk 2077 | 138
−25.4%
|
170−180
+25.4%
|
Far Cry 5 | 157
+20.8%
|
130
−20.8%
|
Fortnite | 280−290
−5.6%
|
300−350
+5.6%
|
Forza Horizon 4 | 230−240
−16.1%
|
270−280
+16.1%
|
Forza Horizon 5 | 152
−30.3%
|
190−200
+30.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 300−350
−17.6%
|
350−400
+17.6%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 147
−42.9%
|
210−220
+42.9%
|
Battlefield 5 | 156
−15.4%
|
180−190
+15.4%
|
Counter-Strike 2 | 150−160
−0.6%
|
155
+0.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 134
−29.1%
|
170−180
+29.1%
|
Dota 2 | 147
−8.8%
|
160−170
+8.8%
|
Far Cry 5 | 150
+19%
|
126
−19%
|
Fortnite | 280−290
−5.6%
|
300−350
+5.6%
|
Forza Horizon 4 | 230−240
−16.1%
|
270−280
+16.1%
|
Forza Horizon 5 | 140
−41.4%
|
190−200
+41.4%
|
Grand Theft Auto V | 147
−15.6%
|
170−180
+15.6%
|
Metro Exodus | 128
+12.3%
|
114
−12.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 303
−61.4%
|
489
+61.4%
|
Valorant | 300−350
−17.6%
|
350−400
+17.6%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 145
−24.1%
|
180−190
+24.1%
|
Counter-Strike 2 | 150−160
+4.8%
|
147
−4.8%
|
Cyberpunk 2077 | 131
−32.1%
|
170−180
+32.1%
|
Dota 2 | 135
−11.1%
|
150−160
+11.1%
|
Far Cry 5 | 140
+18.6%
|
118
−18.6%
|
Forza Horizon 4 | 230−240
−16.1%
|
270−280
+16.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 149
−74.5%
|
260
+74.5%
|
Valorant | 268
−47%
|
350−400
+47%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 280−290
−5.6%
|
300−350
+5.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 55−60
−32.7%
|
70−75
+32.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 450−500
−14.4%
|
500−550
+14.4%
|
Grand Theft Auto V | 112
−27.7%
|
140−150
+27.7%
|
Metro Exodus | 95
+0%
|
95
+0%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 350−400
−23.4%
|
450−500
+23.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 124
−41.9%
|
170−180
+41.9%
|
Cyberpunk 2077 | 86
−16.3%
|
100−105
+16.3%
|
Far Cry 5 | 135
+14.4%
|
118
−14.4%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−19.5%
|
230−240
+19.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 130−140
−59.9%
|
219
+59.9%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 50−55
−20.4%
|
65−70
+20.4%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−103%
|
79
+103%
|
Grand Theft Auto V | 143
−16.1%
|
160−170
+16.1%
|
Metro Exodus | 65
−38.5%
|
90
+38.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 115
−60%
|
184
+60%
|
Valorant | 300−350
−1.8%
|
300−350
+1.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 91
−44%
|
130−140
+44%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+30%
|
30
−30%
|
Cyberpunk 2077 | 43
−11.6%
|
45−50
+11.6%
|
Dota 2 | 129
−8.5%
|
140−150
+8.5%
|
Far Cry 5 | 94
−22.3%
|
115
+22.3%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−28.7%
|
190−200
+28.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3080 และ RTX 6000 Ada Generation แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 10% ในความละเอียด 1080p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 29% ในความละเอียด 1440p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 26% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 3080 เร็วกว่า 46%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 103%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 เหนือกว่าใน 9การทดสอบ (15%)
- RTX 6000 Ada Generation เหนือกว่าใน 43การทดสอบ (70%)
- เสมอกันใน 9การทดสอบ (15%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 64.65 | 73.16 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 กันยายน 2020 | 3 ธันวาคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 10 จีบี | 48 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 วัตต์ | 300 วัตต์ |
RTX 6000 Ada Generation มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 13.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 6.7%
RTX 6000 Ada Generation เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 3080 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 3080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ RTX 6000 Ada Generation เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน