RTX 6000 Ada Generation เทียบกับ GeForce RTX 3080 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3080 Ti กับ RTX 6000 Ada Generation รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 6000 Ada Generation มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 3080 Ti เล็กน้อย 5% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 22 | 16 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 22.74 | 7.58 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 13.82 | 17.00 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA102 | AD102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 3 ธันวาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,199 | $6,799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3080 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 6000 Ada Generation อยู่ 200%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 10240 | 18176 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1365 MHz | 915 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1665 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 28,300 million | 76,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 532.8 | 1,423 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 34.1 TFLOPS | 91.06 TFLOPS |
ROPs | 112 | 192 |
TMUs | 320 | 568 |
Tensor Cores | 320 | 568 |
Ray Tracing Cores | 80 | 142 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 285 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 48 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1188 MHz | 2500 MHz |
912.4 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 4x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 214
+16.3%
| 184
−16.3%
|
1440p | 145
−11.7%
| 162
+11.7%
|
4K | 97
−14.4%
| 111
+14.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.60
+560%
| 36.95
−560%
|
1440p | 8.27
+408%
| 41.97
−408%
|
4K | 12.36
+396%
| 61.25
−396%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 200−210
−4.5%
|
210−220
+4.5%
|
Counter-Strike 2 | 160−170
+1.2%
|
164
−1.2%
|
Cyberpunk 2077 | 219
+26.6%
|
170−180
−26.6%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 200−210
−4.5%
|
210−220
+4.5%
|
Battlefield 5 | 170−180
−3.4%
|
180−190
+3.4%
|
Counter-Strike 2 | 160−170
+1.8%
|
163
−1.8%
|
Cyberpunk 2077 | 184
+6.4%
|
170−180
−6.4%
|
Far Cry 5 | 208
+60%
|
130
−60%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
−6.6%
|
270−280
+6.6%
|
Forza Horizon 5 | 200
+1%
|
190−200
−1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 350−400
−7.7%
|
350−400
+7.7%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 200−210
−4.5%
|
210−220
+4.5%
|
Battlefield 5 | 170−180
−3.4%
|
180−190
+3.4%
|
Counter-Strike 2 | 160−170
+7.1%
|
155
−7.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 160
−8.1%
|
170−180
+8.1%
|
Dota 2 | 234
−2.6%
|
240−250
+2.6%
|
Far Cry 5 | 198
+57.1%
|
126
−57.1%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
−6.6%
|
270−280
+6.6%
|
Forza Horizon 5 | 188
−5.3%
|
190−200
+5.3%
|
Grand Theft Auto V | 174
+2.4%
|
170−180
−2.4%
|
Metro Exodus | 172
+50.9%
|
114
−50.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 372
−31.5%
|
489
+31.5%
|
Valorant | 350−400
−7.7%
|
350−400
+7.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 196
+8.9%
|
180−190
−8.9%
|
Counter-Strike 2 | 160−170
+12.9%
|
147
−12.9%
|
Cyberpunk 2077 | 146
−18.5%
|
170−180
+18.5%
|
Dota 2 | 217
−1.4%
|
220−230
+1.4%
|
Far Cry 5 | 186
+57.6%
|
118
−57.6%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
−6.6%
|
270−280
+6.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 181
−43.6%
|
260
+43.6%
|
Valorant | 388
−1.5%
|
350−400
+1.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 60−65
−14.1%
|
70−75
+14.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
−3.2%
|
500−550
+3.2%
|
Grand Theft Auto V | 153
+7%
|
140−150
−7%
|
Metro Exodus | 114
+20%
|
95
−20%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 400−450
−8.7%
|
450−500
+8.7%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 192
+9.1%
|
170−180
−9.1%
|
Cyberpunk 2077 | 99
−1%
|
100−105
+1%
|
Far Cry 5 | 176
+49.2%
|
118
−49.2%
|
Forza Horizon 4 | 220−230
−8.1%
|
230−240
+8.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 150−160
−43.1%
|
219
+43.1%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 60−65
−8.3%
|
65−70
+8.3%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
−75.6%
|
79
+75.6%
|
Grand Theft Auto V | 182
+9.6%
|
160−170
−9.6%
|
Metro Exodus | 76
−18.4%
|
90
+18.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 152
−21.1%
|
184
+21.1%
|
Valorant | 300−350
−0.3%
|
300−350
+0.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 136
+3.8%
|
130−140
−3.8%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+50%
|
30
−50%
|
Cyberpunk 2077 | 50
+4.2%
|
45−50
−4.2%
|
Dota 2 | 211
−4.3%
|
220−230
+4.3%
|
Far Cry 5 | 109
−5.5%
|
115
+5.5%
|
Forza Horizon 4 | 170−180
−11.6%
|
190−200
+11.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3080 Ti และ RTX 6000 Ada Generation แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 16% ในความละเอียด 1080p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 12% ในความละเอียด 1440p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 14% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RTX 3080 Ti เร็วกว่า 60%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 76%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 Ti เหนือกว่าใน 21การทดสอบ (34%)
- RTX 6000 Ada Generation เหนือกว่าใน 29การทดสอบ (48%)
- เสมอกันใน 11การทดสอบ (18%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 69.38 | 73.16 |
ความใหม่ล่าสุด | 31 พฤษภาคม 2021 | 3 ธันวาคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 48 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 วัตต์ | 300 วัตต์ |
RTX 6000 Ada Generation มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 5.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 16.7%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง GeForce RTX 3080 Ti และ RTX 6000 Ada Generation ได้อย่างชัดเจน
โปรดทราบว่า GeForce RTX 3080 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ RTX 6000 Ada Generation เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน