GeForce RTX 5070 Ti เทียบกับ RTX 3080 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3080 Ti และ GeForce RTX 5070 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 3080 Ti อย่างมาก 22% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 32 | 7 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 22.71 | 55.37 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 13.63 | 19.38 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | GA102 | GB203 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กุมภาพันธ์ 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,199 | $749 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5070 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3080 Ti อยู่ 144%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 10240 | 8960 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1365 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1665 MHz | 2452 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 28,300 million | 45,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 532.8 | 686.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 34.1 TFLOPS | 43.94 TFLOPS |
ROPs | 112 | 96 |
TMUs | 320 | 280 |
Tensor Cores | 320 | 280 |
Ray Tracing Cores | 80 | 70 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 285 mm | 304 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1188 MHz | 1750 MHz |
912.4 จีบี/s | 896.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.4 |
CUDA | 8.6 | 12.0 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 215
−4.2%
| 224
+4.2%
|
1440p | 144
+8.3%
| 133
−8.3%
|
4K | 96
+9.1%
| 88
−9.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.58
−66.8%
| 3.34
+66.8%
|
1440p | 8.33
−47.9%
| 5.63
+47.9%
|
4K | 12.49
−46.7%
| 8.51
+46.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 300−350
−6.1%
|
300−350
+6.1%
|
Cyberpunk 2077 | 219
+7.9%
|
200−210
−7.9%
|
Hogwarts Legacy | 150−160
−42.6%
|
221
+42.6%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 170−180
−13.2%
|
190−200
+13.2%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
−6.1%
|
300−350
+6.1%
|
Cyberpunk 2077 | 184
−10.3%
|
200−210
+10.3%
|
Far Cry 5 | 208
−56.7%
|
326
+56.7%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
−28.9%
|
300−350
+28.9%
|
Forza Horizon 5 | 200
−11%
|
220−230
+11%
|
Hogwarts Legacy | 150−160
−27.7%
|
198
+27.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 350−400
−37.2%
|
500−550
+37.2%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 170−180
−13.2%
|
190−200
+13.2%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
−6.1%
|
300−350
+6.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 160
−26.9%
|
200−210
+26.9%
|
Dota 2 | 234
−19.7%
|
280−290
+19.7%
|
Far Cry 5 | 198
−56.6%
|
310
+56.6%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
−28.9%
|
300−350
+28.9%
|
Forza Horizon 5 | 188
−18.1%
|
220−230
+18.1%
|
Grand Theft Auto V | 174
+0.6%
|
170−180
−0.6%
|
Hogwarts Legacy | 150−160
−14.8%
|
178
+14.8%
|
Metro Exodus | 172
−40.1%
|
241
+40.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 372
−42.2%
|
529
+42.2%
|
Valorant | 350−400
−37.2%
|
500−550
+37.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 196
−0.5%
|
190−200
+0.5%
|
Cyberpunk 2077 | 146
−39%
|
200−210
+39%
|
Dota 2 | 217
−19.8%
|
260−270
+19.8%
|
Far Cry 5 | 186
−58.1%
|
294
+58.1%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
−28.9%
|
300−350
+28.9%
|
Hogwarts Legacy | 150−160
+14.8%
|
135
−14.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 181
−35.9%
|
246
+35.9%
|
Valorant | 388
−29.4%
|
500−550
+29.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 190−200
−29.8%
|
250−260
+29.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
−2.6%
|
500−550
+2.6%
|
Grand Theft Auto V | 153
−3.9%
|
150−160
+3.9%
|
Metro Exodus | 114
−34.2%
|
153
+34.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 400−450
−8.3%
|
450−500
+8.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 192
−2.1%
|
190−200
+2.1%
|
Cyberpunk 2077 | 99
−25.3%
|
120−130
+25.3%
|
Far Cry 5 | 176
−42.6%
|
251
+42.6%
|
Forza Horizon 4 | 220−230
−34.1%
|
290−300
+34.1%
|
Hogwarts Legacy | 85−90
−17.2%
|
102
+17.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 150−160
−31.8%
|
203
+31.8%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 85−90
−31.5%
|
110−120
+31.5%
|
Grand Theft Auto V | 182
−1.6%
|
180−190
+1.6%
|
Hogwarts Legacy | 45−50
−64.6%
|
79
+64.6%
|
Metro Exodus | 76
−32.9%
|
101
+32.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 152
−25%
|
190
+25%
|
Valorant | 300−350
−0.3%
|
300−350
+0.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 136
+0%
|
130−140
+0%
|
Counter-Strike 2 | 85−90
−31.5%
|
110−120
+31.5%
|
Cyberpunk 2077 | 50
−22%
|
60−65
+22%
|
Dota 2 | 211
−18.5%
|
250−260
+18.5%
|
Far Cry 5 | 109
−32.1%
|
144
+32.1%
|
Forza Horizon 4 | 170−180
−55.8%
|
260−270
+55.8%
|
Hogwarts Legacy | 45−50
−31.3%
|
63
+31.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3080 Ti และ RTX 5070 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 4% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 8% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 9% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Hogwarts Legacy ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3080 Ti เร็วกว่า 15%
- ในเกม Hogwarts Legacy ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5070 Ti เร็วกว่า 65%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 Ti เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- RTX 5070 Ti เหนือกว่าใน 48การทดสอบ (76%)
- เสมอกันใน 12การทดสอบ (19%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 63.92 | 77.90 |
ความใหม่ล่าสุด | 31 พฤษภาคม 2021 | 20 กุมภาพันธ์ 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 วัตต์ | 300 วัตต์ |
RTX 5070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 21.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 16.7%
GeForce RTX 5070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 3080 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ