Radeon 780M เทียบกับ GeForce RTX 3080 12 GB
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3080 12 GB กับ Radeon 780M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3080 12 GB มีประสิทธิภาพดีกว่า 780M อย่างมหาศาลถึง 280% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 28 | 313 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 63 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 41.09 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 13.57 | 83.41 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | GA102 | Hawx Point |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 11 มกราคม 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 6 ธันวาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $799 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 8960 | 768 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1260 MHz | 800 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1710 MHz | 2700 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 28,300 million | 25,390 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 Watt | 15 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 478.8 | 129.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 30.64 TFLOPS | 8.294 TFLOPS |
ROPs | 96 | 32 |
TMUs | 280 | 48 |
Tensor Cores | 280 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 70 | 12 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 285 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1188 MHz | System Shared |
912.4 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.1 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 182
+420%
| 35
−420%
|
1440p | 121
+612%
| 17
−612%
|
4K | 82
+583%
| 12
−583%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.39 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 6.60 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 9.74 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 190−200
+304%
|
49
−304%
|
Counter-Strike 2 | 160−170
+413%
|
32
−413%
|
Cyberpunk 2077 | 160−170
+310%
|
39
−310%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 248
+536%
|
39
−536%
|
Battlefield 5 | 170−180
+140%
|
70−75
−140%
|
Counter-Strike 2 | 179
+588%
|
26
−588%
|
Cyberpunk 2077 | 160−170
+416%
|
31
−416%
|
Far Cry 5 | 171
+280%
|
45
−280%
|
Fortnite | 300−350
+225%
|
90−95
−225%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+260%
|
70−75
−260%
|
Forza Horizon 5 | 171
+264%
|
45−50
−264%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+177%
|
60−65
−177%
|
Valorant | 350−400
+170%
|
130−140
−170%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 145
+530%
|
23
−530%
|
Battlefield 5 | 170−180
+140%
|
70−75
−140%
|
Counter-Strike 2 | 154
+516%
|
25
−516%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+28.7%
|
210−220
−28.7%
|
Cyberpunk 2077 | 160−170
+567%
|
24
−567%
|
Dota 2 | 176
+72.5%
|
100−110
−72.5%
|
Far Cry 5 | 162
+295%
|
41
−295%
|
Fortnite | 300−350
+225%
|
90−95
−225%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+260%
|
70−75
−260%
|
Forza Horizon 5 | 159
+238%
|
45−50
−238%
|
Grand Theft Auto V | 155
+252%
|
44
−252%
|
Metro Exodus | 147
+407%
|
29
−407%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+177%
|
60−65
−177%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 321
+598%
|
46
−598%
|
Valorant | 350−400
+170%
|
130−140
−170%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 170−180
+140%
|
70−75
−140%
|
Counter-Strike 2 | 140
+352%
|
30−35
−352%
|
Cyberpunk 2077 | 160−170
+596%
|
23
−596%
|
Dota 2 | 161
+57.8%
|
100−110
−57.8%
|
Far Cry 5 | 151
+287%
|
39
−287%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+260%
|
70−75
−260%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+177%
|
60−65
−177%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 165
+469%
|
29
−469%
|
Valorant | 350−400
+170%
|
130−140
−170%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+225%
|
90−95
−225%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 60−65
+288%
|
16−18
−288%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 450−500
+290%
|
120−130
−290%
|
Grand Theft Auto V | 130
+622%
|
18
−622%
|
Metro Exodus | 98
+345%
|
21−24
−345%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+6.1%
|
160−170
−6.1%
|
Valorant | 400−450
+158%
|
160−170
−158%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 160−170
+233%
|
45−50
−233%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
+469%
|
16
−469%
|
Far Cry 5 | 147
+444%
|
27
−444%
|
Forza Horizon 4 | 210−220
+405%
|
40−45
−405%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 150−160
+650%
|
20
−650%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+287%
|
35−40
−287%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 55−60
+321%
|
14−16
−321%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+450%
|
8−9
−450%
|
Grand Theft Auto V | 170
+710%
|
21
−710%
|
Metro Exodus | 65
+400%
|
12−14
−400%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 132
+780%
|
15
−780%
|
Valorant | 300−350
+244%
|
95−100
−244%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
+368%
|
24−27
−368%
|
Counter-Strike 2 | 23
+188%
|
8−9
−188%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+633%
|
6
−633%
|
Dota 2 | 156
+160%
|
60−65
−160%
|
Far Cry 5 | 102
+750%
|
12
−750%
|
Forza Horizon 4 | 160−170
+460%
|
30−33
−460%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+465%
|
16−18
−465%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+365%
|
16−18
−365%
|
Full HD
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 45−50
+0%
|
45−50
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
+0%
|
18−20
+0%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
+0%
|
30−35
+0%
|
4K
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 14−16
+0%
|
14−16
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3080 12 GB และ Radeon 780M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 420% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 612% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 583% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 780%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 12 GB เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 69.09 | 18.20 |
ความใหม่ล่าสุด | 11 มกราคม 2022 | 6 ธันวาคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 วัตต์ | 15 วัตต์ |
RTX 3080 12 GB มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 279.6%
ในทางกลับกัน Radeon 780M มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 2233.3%
GeForce RTX 3080 12 GB เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 780M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 3080 12 GB เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon 780M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก