RTX 6000 Ada Generation เทียบกับ GeForce RTX 3070
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3070 กับ RTX 6000 Ada Generation รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 6000 Ada Generation มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 3070 อย่างมาก 28% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 45 | 16 |
จัดอันดับตามความนิยม | 40 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 57.74 | 7.61 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.09 | 16.95 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA104 | AD102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 3 ธันวาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $6,799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3070 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 6000 Ada Generation อยู่ 659%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 5888 | 18176 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 915 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1725 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 17,400 million | 76,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 220 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 317.4 | 1,423 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 20.31 TFLOPS | 91.06 TFLOPS |
ROPs | 96 | 192 |
TMUs | 184 | 568 |
Tensor Cores | 184 | 568 |
Ray Tracing Cores | 46 | 142 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 242 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 48 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 2500 MHz |
448.0 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 4x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.5 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 150
−22.7%
| 184
+22.7%
|
1440p | 98
−65.3%
| 162
+65.3%
|
4K | 64
−73.4%
| 111
+73.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.33
+1011%
| 36.95
−1011%
|
1440p | 5.09
+724%
| 41.97
−724%
|
4K | 7.80
+686%
| 61.25
−686%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 263
+25.2%
|
210−220
−25.2%
|
Counter-Strike 2 | 149
−10.1%
|
164
+10.1%
|
Cyberpunk 2077 | 147
−17.7%
|
170−180
+17.7%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 196
−7.1%
|
210−220
+7.1%
|
Battlefield 5 | 149
−20.8%
|
180−190
+20.8%
|
Counter-Strike 2 | 135
−20.7%
|
163
+20.7%
|
Cyberpunk 2077 | 139
−24.5%
|
170−180
+24.5%
|
Far Cry 5 | 154
+18.5%
|
130
−18.5%
|
Fortnite | 230−240
−27.4%
|
300−350
+27.4%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−32.4%
|
270−280
+32.4%
|
Forza Horizon 5 | 159
−24.5%
|
190−200
+24.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 290−300
−34.4%
|
350−400
+34.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 113
−85.8%
|
210−220
+85.8%
|
Battlefield 5 | 132
−36.4%
|
180−190
+36.4%
|
Counter-Strike 2 | 117
−32.5%
|
155
+32.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 126
−37.3%
|
170−180
+37.3%
|
Dota 2 | 133
−20.3%
|
160−170
+20.3%
|
Far Cry 5 | 148
+17.5%
|
126
−17.5%
|
Fortnite | 230−240
−27.4%
|
300−350
+27.4%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−32.4%
|
270−280
+32.4%
|
Forza Horizon 5 | 148
−33.8%
|
190−200
+33.8%
|
Grand Theft Auto V | 139
−22.3%
|
170−180
+22.3%
|
Metro Exodus | 120
+5.3%
|
114
−5.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 230
−113%
|
489
+113%
|
Valorant | 290−300
−34.4%
|
350−400
+34.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 119
−51.3%
|
180−190
+51.3%
|
Counter-Strike 2 | 105
−40%
|
147
+40%
|
Cyberpunk 2077 | 102
−69.6%
|
170−180
+69.6%
|
Dota 2 | 125
−20%
|
150−160
+20%
|
Far Cry 5 | 141
+19.5%
|
118
−19.5%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−32.4%
|
270−280
+32.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 121
−115%
|
260
+115%
|
Valorant | 237
−66.7%
|
350−400
+66.7%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 230−240
−27.4%
|
300−350
+27.4%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
−65.9%
|
70−75
+65.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 350−400
−35.1%
|
500−550
+35.1%
|
Grand Theft Auto V | 98
−45.9%
|
140−150
+45.9%
|
Metro Exodus | 75
−26.7%
|
95
+26.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 300−350
−46.5%
|
450−500
+46.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 103
−70.9%
|
170−180
+70.9%
|
Cyberpunk 2077 | 62
−61.3%
|
100−105
+61.3%
|
Far Cry 5 | 125
+5.9%
|
118
−5.9%
|
Forza Horizon 4 | 160−170
−41.4%
|
230−240
+41.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110−120
−90.4%
|
219
+90.4%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 140−150
−1.3%
|
150−160
+1.3%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 45−50
−41.3%
|
65−70
+41.3%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−155%
|
79
+155%
|
Grand Theft Auto V | 117
−41.9%
|
160−170
+41.9%
|
Metro Exodus | 49
−83.7%
|
90
+83.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90
−104%
|
184
+104%
|
Valorant | 300−350
−8.1%
|
300−350
+8.1%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70
−87.1%
|
130−140
+87.1%
|
Counter-Strike 2 | 16
−87.5%
|
30
+87.5%
|
Cyberpunk 2077 | 30
−60%
|
45−50
+60%
|
Dota 2 | 125
−20%
|
150−160
+20%
|
Far Cry 5 | 70
−64.3%
|
115
+64.3%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−61.7%
|
190−200
+61.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
−3.2%
|
95−100
+3.2%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3070 และ RTX 6000 Ada Generation แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 23% ในความละเอียด 1080p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 65% ในความละเอียด 1440p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 73% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 3070 เร็วกว่า 25%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 155%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 เหนือกว่าใน 6การทดสอบ (10%)
- RTX 6000 Ada Generation เหนือกว่าใน 49การทดสอบ (80%)
- เสมอกันใน 6การทดสอบ (10%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 57.67 | 73.69 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 กันยายน 2020 | 3 ธันวาคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 48 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 220 วัตต์ | 300 วัตต์ |
RTX 3070 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 36.4%
ในทางกลับกัน RTX 6000 Ada Generation มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 27.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%
RTX 6000 Ada Generation เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 3070 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 3070 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ RTX 6000 Ada Generation เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน