Radeon 860M เทียบกับ GeForce RTX 3070 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3070 Ti กับ Radeon 860M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า 860M อย่างมหาศาลถึง 400% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 44 | 429 |
จัดอันดับตามความนิยม | 77 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 52.69 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.30 | 54.88 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | RDNA 3.5 (2024−2025) |
ชื่อรหัส GPU | GA104 | Strix Point |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | มีนาคม 2025 (เร็ว ๆ นี้) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $599 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 6144 | 512 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1575 MHz | 400 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 3000 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 17,400 million | 34,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 290 Watt | 15 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 339.8 | 96.00 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 21.75 TFLOPS | 3.072 TFLOPS |
ROPs | 96 | 8 |
TMUs | 192 | 32 |
Tensor Cores | 192 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 48 | 8 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 267 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1188 MHz | System Shared |
608.3 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
Resizable BAR | + | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.1 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 171
+375%
| 36
−375%
|
1440p | 93
+417%
| 18−20
−417%
|
4K | 59
+490%
| 10−12
−490%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.50 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 6.44 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 10.15 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 350
+465%
|
60−65
−465%
|
Cyberpunk 2077 | 178
+409%
|
35−40
−409%
|
Hogwarts Legacy | 130−140
+585%
|
20−22
−585%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 160−170
+224%
|
50−55
−224%
|
Counter-Strike 2 | 337
+444%
|
60−65
−444%
|
Cyberpunk 2077 | 141
+422%
|
27−30
−422%
|
Far Cry 5 | 205
+336%
|
47
−336%
|
Fortnite | 250−260
+281%
|
65−70
−281%
|
Forza Horizon 4 | 210−220
+354%
|
45−50
−354%
|
Forza Horizon 5 | 210
+425%
|
40−45
−425%
|
Hogwarts Legacy | 130−140
+585%
|
20−22
−585%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+329%
|
40−45
−329%
|
Valorant | 300−350
+203%
|
100−110
−203%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 160−170
+224%
|
50−55
−224%
|
Counter-Strike 2 | 266
+329%
|
60−65
−329%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+69.5%
|
160−170
−69.5%
|
Cyberpunk 2077 | 124
+417%
|
24−27
−417%
|
Dota 2 | 249
+453%
|
45−50
−453%
|
Far Cry 5 | 196
+356%
|
43
−356%
|
Fortnite | 250−260
+281%
|
65−70
−281%
|
Forza Horizon 4 | 210−220
+354%
|
45−50
−354%
|
Forza Horizon 5 | 196
+460%
|
35−40
−460%
|
Grand Theft Auto V | 173
+368%
|
37
−368%
|
Hogwarts Legacy | 130−140
+585%
|
20−22
−585%
|
Metro Exodus | 145
+530%
|
21−24
−530%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+329%
|
40−45
−329%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 294
+914%
|
27−30
−914%
|
Valorant | 300−350
+203%
|
100−110
−203%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 160−170
+224%
|
50−55
−224%
|
Cyberpunk 2077 | 113
+438%
|
21−24
−438%
|
Dota 2 | 230
+411%
|
45−50
−411%
|
Far Cry 5 | 183
+358%
|
40
−358%
|
Forza Horizon 4 | 210−220
+354%
|
45−50
−354%
|
Hogwarts Legacy | 130−140
+585%
|
20−22
−585%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+329%
|
40−45
−329%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 144
+397%
|
27−30
−397%
|
Valorant | 300−350
+415%
|
60−65
−415%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 250−260
+281%
|
65−70
−281%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 160
+662%
|
21−24
−662%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 400−450
+386%
|
85−90
−386%
|
Grand Theft Auto V | 137
+706%
|
16−18
−706%
|
Metro Exodus | 89
+585%
|
12−14
−585%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+483%
|
30−33
−483%
|
Valorant | 350−400
+189%
|
120−130
−189%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+360%
|
30−33
−360%
|
Cyberpunk 2077 | 73
+421%
|
14−16
−421%
|
Far Cry 5 | 150
+525%
|
24−27
−525%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
+570%
|
27−30
−570%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
+500%
|
12−14
−500%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 113
+565%
|
16−18
−565%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+529%
|
24−27
−529%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 47
+683%
|
6−7
−683%
|
Grand Theft Auto V | 147
+568%
|
21−24
−568%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
+550%
|
6−7
−550%
|
Metro Exodus | 56
+700%
|
7−8
−700%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 109
+679%
|
14−16
−679%
|
Valorant | 300−350
+427%
|
60−65
−427%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 95−100
+547%
|
14−16
−547%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
+421%
|
14−16
−421%
|
Cyberpunk 2077 | 35
+483%
|
6−7
−483%
|
Dota 2 | 194
+454%
|
35−40
−454%
|
Far Cry 5 | 82
+583%
|
12−14
−583%
|
Forza Horizon 4 | 130−140
+589%
|
18−20
−589%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
+550%
|
6−7
−550%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+773%
|
10−12
−773%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+618%
|
10−12
−618%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3070 Ti และ Radeon 860M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 Ti เร็วกว่า 375% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3070 Ti เร็วกว่า 417% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3070 Ti เร็วกว่า 490% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3070 Ti เร็วกว่า 914%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 3070 Ti เหนือกว่า Radeon 860M ในการทดสอบทั้ง 52 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 55.57 | 11.11 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 290 วัตต์ | 15 วัตต์ |
RTX 3070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 400.2%
ในทางกลับกัน Radeon 860M มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 1833.3%
GeForce RTX 3070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 860M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 3070 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon 860M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก