RTX 6000 Ada Generation เทียบกับ GeForce RTX 3060
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3060 กับ RTX 6000 Ada Generation รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 6000 Ada Generation มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 3060 อย่างน่าประทับใจ 69% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 91 | 19 |
จัดอันดับตามความนิยม | 4 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 67.66 | 8.63 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.85 | 16.98 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA106 | AD102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 12 มกราคม 2021 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 3 ธันวาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $329 | $6,799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3060 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 6000 Ada Generation อยู่ 684%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 18176 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1320 MHz | 915 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1777 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,000 million | 76,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 199.0 | 1,423 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.74 TFLOPS | 91.06 TFLOPS |
ROPs | 48 | 192 |
TMUs | 112 | 568 |
Tensor Cores | 112 | 568 |
Ray Tracing Cores | 28 | 142 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 242 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 48 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1875 MHz | 2500 MHz |
360.0 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 4x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 115
−59.1%
| 183
+59.1%
|
1440p | 67
−139%
| 160
+139%
|
4K | 43
−153%
| 109
+153%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.86
+1199%
| 37.15
−1199%
|
1440p | 4.91
+765%
| 42.49
−765%
|
4K | 7.65
+715%
| 62.38
−715%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 230−240
−39.4%
|
300−350
+39.4%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−122%
|
170−180
+122%
|
Hogwarts Legacy | 95−100
−60.4%
|
150−160
+60.4%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 130−140
−32.1%
|
180−190
+32.1%
|
Counter-Strike 2 | 230−240
−39.4%
|
300−350
+39.4%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−124%
|
170−180
+124%
|
Far Cry 5 | 146
+12.3%
|
130
−12.3%
|
Fortnite | 170−180
−70.6%
|
300−350
+70.6%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−74.7%
|
270−280
+74.7%
|
Forza Horizon 5 | 124
−59.7%
|
190−200
+59.7%
|
Hogwarts Legacy | 95−100
−60.4%
|
150−160
+60.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−11.3%
|
170−180
+11.3%
|
Valorant | 230−240
−70.2%
|
400−450
+70.2%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 130−140
−32.1%
|
180−190
+32.1%
|
Counter-Strike 2 | 230−240
−39.4%
|
300−350
+39.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 75
−133%
|
170−180
+133%
|
Dota 2 | 156
−66.7%
|
260−270
+66.7%
|
Far Cry 5 | 135
+7.1%
|
126
−7.1%
|
Fortnite | 170−180
−70.6%
|
300−350
+70.6%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−74.7%
|
270−280
+74.7%
|
Forza Horizon 5 | 110
−80%
|
190−200
+80%
|
Grand Theft Auto V | 141
−21.3%
|
170−180
+21.3%
|
Hogwarts Legacy | 95−100
−60.4%
|
150−160
+60.4%
|
Metro Exodus | 81
−40.7%
|
114
+40.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−11.3%
|
170−180
+11.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 179
−173%
|
489
+173%
|
Valorant | 230−240
−70.2%
|
400−450
+70.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
−32.1%
|
180−190
+32.1%
|
Cyberpunk 2077 | 64
−173%
|
170−180
+173%
|
Dota 2 | 147
−63.3%
|
240−250
+63.3%
|
Far Cry 5 | 127
+7.6%
|
118
−7.6%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−74.7%
|
270−280
+74.7%
|
Hogwarts Legacy | 95−100
−60.4%
|
150−160
+60.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−11.3%
|
170−180
+11.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 87
−199%
|
260
+199%
|
Valorant | 230−240
−70.2%
|
400−450
+70.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
−70.6%
|
300−350
+70.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 100−110
−99.1%
|
210−220
+99.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 280−290
−81.7%
|
500−550
+81.7%
|
Grand Theft Auto V | 81
−77.8%
|
140−150
+77.8%
|
Metro Exodus | 50
−90%
|
95
+90%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
−82.3%
|
450−500
+82.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−71.2%
|
170−180
+71.2%
|
Cyberpunk 2077 | 39
−159%
|
100−110
+159%
|
Far Cry 5 | 94
−25.5%
|
118
+25.5%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−103%
|
240−250
+103%
|
Hogwarts Legacy | 45−50
−87.8%
|
90−95
+87.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
−204%
|
219
+204%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 110−120
−37.3%
|
150−160
+37.3%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 45−50
+22.5%
|
40
−22.5%
|
Grand Theft Auto V | 82
−104%
|
160−170
+104%
|
Hogwarts Legacy | 24−27
−100%
|
50−55
+100%
|
Metro Exodus | 32
−181%
|
90
+181%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 65
−183%
|
184
+183%
|
Valorant | 240−250
−33.3%
|
300−350
+33.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 65−70
−100%
|
130−140
+100%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
−98%
|
95−100
+98%
|
Cyberpunk 2077 | 18
−172%
|
45−50
+172%
|
Dota 2 | 115
−65.2%
|
190−200
+65.2%
|
Far Cry 5 | 48
−140%
|
115
+140%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
−146%
|
190−200
+146%
|
Hogwarts Legacy | 24−27
−100%
|
50−55
+100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−65.5%
|
95−100
+65.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 55−60
−43.6%
|
75−80
+43.6%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3060 และ RTX 6000 Ada Generation แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 59% ในความละเอียด 1080p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 139% ในความละเอียด 1440p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 153% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3060 เร็วกว่า 23%
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 204%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 เหนือกว่าใน 4การทดสอบ (6%)
- RTX 6000 Ada Generation เหนือกว่าใน 57การทดสอบ (90%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 38.24 | 64.52 |
ความใหม่ล่าสุด | 12 มกราคม 2021 | 3 ธันวาคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 48 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 วัตต์ | 300 วัตต์ |
RTX 3060 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 76.5%
ในทางกลับกัน RTX 6000 Ada Generation มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 68.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%
RTX 6000 Ada Generation เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 3060 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 3060 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ RTX 6000 Ada Generation เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน