GeForce RTX 5090 เทียบกับ GTX 1660
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 และ GeForce RTX 5090 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5090 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 อย่างมหาศาลถึง 245% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 207 | 2 |
จัดอันดับตามความนิยม | 41 | 9 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 43.28 | 11.29 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.21 | 12.38 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | GB202 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 มีนาคม 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 30 มกราคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $219 | $1,999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 1660 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 5090 อยู่ 283%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1408 | 21760 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1530 MHz | 2017 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1785 MHz | 2407 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 92,200 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 575 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 157.1 | 1,637 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.027 TFLOPS | 104.8 TFLOPS |
ROPs | 48 | 176 |
TMUs | 88 | 680 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 680 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 170 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 304 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 32 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 512 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2001 MHz | 1750 MHz |
192.1 จีบี/s | 1.79 ทีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.4 |
CUDA | 7.5 | 12.0 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 83
−190%
| 241
+190%
|
1440p | 50
−314%
| 207
+314%
|
4K | 27
−489%
| 159
+489%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.64
+214%
| 8.29
−214%
|
1440p | 4.38
+120%
| 9.66
−120%
|
4K | 8.11
+55%
| 12.57
−55%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 271
−22.5%
|
300−350
+22.5%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−252%
|
250−260
+252%
|
Hogwarts Legacy | 79
−116%
|
170−180
+116%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 100−110
−84.1%
|
190−200
+84.1%
|
Counter-Strike 2 | 223
−48.9%
|
300−350
+48.9%
|
Cyberpunk 2077 | 58
−331%
|
250−260
+331%
|
Far Cry 5 | 100
−156%
|
250−260
+156%
|
Fortnite | 130−140
−127%
|
300−350
+127%
|
Forza Horizon 4 | 132
−161%
|
300−350
+161%
|
Forza Horizon 5 | 100
−164%
|
260−270
+164%
|
Hogwarts Legacy | 59
−190%
|
170−180
+190%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−55.8%
|
170−180
+55.8%
|
Valorant | 306
−122%
|
650−700
+122%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 100−110
−84.1%
|
190−200
+84.1%
|
Counter-Strike 2 | 107
−210%
|
300−350
+210%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−2.6%
|
270−280
+2.6%
|
Cyberpunk 2077 | 47
−432%
|
250−260
+432%
|
Dota 2 | 219
−242%
|
750−800
+242%
|
Far Cry 5 | 92
−178%
|
250−260
+178%
|
Fortnite | 130−140
−127%
|
300−350
+127%
|
Forza Horizon 4 | 123
−180%
|
300−350
+180%
|
Forza Horizon 5 | 88
−200%
|
260−270
+200%
|
Grand Theft Auto V | 115
−50.4%
|
170−180
+50.4%
|
Hogwarts Legacy | 46
−272%
|
170−180
+272%
|
Metro Exodus | 57
−21.1%
|
69
+21.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−55.8%
|
170−180
+55.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 102
−334%
|
400−450
+334%
|
Valorant | 287
−137%
|
650−700
+137%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−84.1%
|
190−200
+84.1%
|
Cyberpunk 2077 | 40
−525%
|
250−260
+525%
|
Dota 2 | 197
−230%
|
650−700
+230%
|
Far Cry 5 | 86
−259%
|
309
+259%
|
Forza Horizon 4 | 98
−251%
|
300−350
+251%
|
Hogwarts Legacy | 36
−361%
|
166
+361%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−55.8%
|
170−180
+55.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 57
−528%
|
358
+528%
|
Valorant | 115
−491%
|
650−700
+491%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−127%
|
300−350
+127%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 62
−403%
|
300−350
+403%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 190−200
−162%
|
500−550
+162%
|
Grand Theft Auto V | 52
−225%
|
160−170
+225%
|
Metro Exodus | 33
−512%
|
202
+512%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 129
−35.7%
|
170−180
+35.7%
|
Valorant | 226
−115%
|
450−500
+115%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−155%
|
190−200
+155%
|
Cyberpunk 2077 | 24
−563%
|
150−160
+563%
|
Far Cry 5 | 59
−415%
|
304
+415%
|
Forza Horizon 4 | 76
−303%
|
300−350
+303%
|
Hogwarts Legacy | 24
−567%
|
160
+567%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 50−55
−554%
|
327
+554%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 70−75
−116%
|
150−160
+116%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 16
−444%
|
87
+444%
|
Grand Theft Auto V | 49
−282%
|
180−190
+282%
|
Hogwarts Legacy | 18−20
−656%
|
136
+656%
|
Metro Exodus | 20
−735%
|
167
+735%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35
−1003%
|
386
+1003%
|
Valorant | 125
−166%
|
300−350
+166%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 40−45
−209%
|
130−140
+209%
|
Counter-Strike 2 | 30−33
−437%
|
160−170
+437%
|
Cyberpunk 2077 | 10
−710%
|
80−85
+710%
|
Dota 2 | 87
−233%
|
290−300
+233%
|
Far Cry 5 | 30
−670%
|
231
+670%
|
Forza Horizon 4 | 50
−510%
|
300−350
+510%
|
Hogwarts Legacy | 13
−685%
|
102
+685%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−200%
|
95−100
+200%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 30−35
−139%
|
75−80
+139%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 และ RTX 5090 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5090 เร็วกว่า 190% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5090 เร็วกว่า 314% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5090 เร็วกว่า 489% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5090 เร็วกว่า 1003%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 5090 เหนือกว่า GTX 1660 ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 27.67 | 95.35 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 มีนาคม 2019 | 30 มกราคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 32 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 575 วัตต์ |
GTX 1660 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 379.2%
ในทางกลับกัน RTX 5090 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 244.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 5090 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 ในการทดสอบประสิทธิภาพ