Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เทียบกับ GeForce GTX 1660 Ti Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 Ti Max-Q และ Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
GTX 1660 Ti Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) อย่างมหาศาลถึง 154% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 248 | 490 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 28 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 69.09 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 26.34 | 41.41 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Vega (2017−2020) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | Vega |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 7 มกราคม 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 512 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1140 MHz | ไม่มีข้อมูล |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1335 MHz | 2100 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 60 Watt | 15 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 128.2 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.101 TFLOPS | ไม่มีข้อมูล |
ROPs | 48 | ไม่มีข้อมูล |
TMUs | 96 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | ไม่มีข้อมูล |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | ไม่มีข้อมูล |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | ไม่มีข้อมูล |
288.0 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12_1 |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | ไม่มีข้อมูล |
OpenGL | 4.6 | ไม่มีข้อมูล |
OpenCL | 1.2 | ไม่มีข้อมูล |
Vulkan | 1.2.131 | - |
CUDA | 7.5 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 78
+239%
| 23
−239%
|
1440p | 40−45
+135%
| 17
−135%
|
4K | 34
+278%
| 9
−278%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.94 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 5.73 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 6.74 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
+215%
|
13
−215%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+142%
|
19
−142%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 70−75
+145%
|
27−30
−145%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+242%
|
12
−242%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+207%
|
15
−207%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
+209%
|
32
−209%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+190%
|
21
−190%
|
Metro Exodus | 81
+200%
|
27
−200%
|
Red Dead Redemption 2 | 92
+179%
|
33
−179%
|
Valorant | 102
+132%
|
44
−132%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 85
+193%
|
27−30
−193%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+356%
|
9
−356%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+318%
|
11
−318%
|
Dota 2 | 89
+207%
|
29
−207%
|
Far Cry 5 | 62
+107%
|
30
−107%
|
Fortnite | 110−120
+121%
|
50−55
−121%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
+267%
|
27
−267%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+369%
|
13
−369%
|
Grand Theft Auto V | 87
+358%
|
19
−358%
|
Metro Exodus | 57
+200%
|
19
−200%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 172
+202%
|
57
−202%
|
Red Dead Redemption 2 | 38
+217%
|
12
−217%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70−75
+170%
|
27−30
−170%
|
Valorant | 63
+350%
|
14
−350%
|
World of Tanks | 240−250
+417%
|
48
−417%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70−75
+145%
|
27−30
−145%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+413%
|
8
−413%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+411%
|
9
−411%
|
Dota 2 | 86
+79.2%
|
48
−79.2%
|
Far Cry 5 | 117
+208%
|
35−40
−208%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
+330%
|
23
−330%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+336%
|
14
−336%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
+108%
|
70−75
−108%
|
Valorant | 93
+151%
|
37
−151%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 35−40
+322%
|
9
−322%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
+322%
|
9
−322%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+691%
|
22
−691%
|
Red Dead Redemption 2 | 21−24
+200%
|
7−8
−200%
|
World of Tanks | 150−160
+629%
|
21
−629%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
+171%
|
16−18
−171%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+0%
|
30−35
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+850%
|
2
−850%
|
Far Cry 5 | 65−70
+242%
|
18−20
−242%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
+275%
|
16
−275%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+185%
|
12−14
−185%
|
Metro Exodus | 50−55
+206%
|
17
−206%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
+175%
|
12−14
−175%
|
Valorant | 60−65
+56.4%
|
39
−56.4%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 20−22
+567%
|
3−4
−567%
|
Dota 2 | 35−40
+290%
|
10
−290%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
+290%
|
10
−290%
|
Metro Exodus | 16−18
+183%
|
6
−183%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 65−70
+431%
|
13
−431%
|
Red Dead Redemption 2 | 14−16
+133%
|
6−7
−133%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
+290%
|
10
−290%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21−24
+188%
|
8−9
−188%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
+567%
|
3−4
−567%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
+133%
|
3−4
−133%
|
Dota 2 | 35−40
+117%
|
18
−117%
|
Far Cry 5 | 30−33
+173%
|
10−12
−173%
|
Fortnite | 27−30
+211%
|
9−10
−211%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+289%
|
9
−289%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
+217%
|
6−7
−217%
|
Valorant | 27−30
+222%
|
9−10
−222%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 Ti Max-Q และ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti Max-Q เร็วกว่า 239% ในความละเอียด 1080p
- GTX 1660 Ti Max-Q เร็วกว่า 135% ในความละเอียด 1440p
- GTX 1660 Ti Max-Q เร็วกว่า 278% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 1660 Ti Max-Q เร็วกว่า 850%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti Max-Q เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 22.93 | 9.01 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 เมษายน 2019 | 7 มกราคม 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 60 วัตต์ | 15 วัตต์ |
GTX 1660 Ti Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 154.5%
ในทางกลับกัน RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 8 เดือนและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 300%
GeForce GTX 1660 Ti Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ