Radeon RX 7800 XT เทียบกับ GeForce GTX 1650
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1650 และ Radeon RX 7800 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7800 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1650 อย่างมหาศาลถึง 207% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 279 | 33 |
จัดอันดับตามความนิยม | 3 | 66 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 37.69 | 67.93 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.80 | 16.46 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | TU117 | Navi 32 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 25 สิงหาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $149 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7800 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1650 อยู่ 80%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 896 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1485 MHz | 1295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1665 MHz | 2430 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 28,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 263 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 93.24 | 583.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.984 TFLOPS | 37.32 TFLOPS |
ROPs | 32 | 96 |
TMUs | 56 | 240 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2438 MHz |
128.0 จีบี/s | 624.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 69
−213%
| 216
+213%
|
1440p | 41
−202%
| 124
+202%
|
4K | 25
−184%
| 71
+184%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.16
+7%
| 2.31
−7%
|
1440p | 3.63
+10.7%
| 4.02
−10.7%
|
4K | 5.96
+17.9%
| 7.03
−17.9%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 50−55
−535%
|
324
+535%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−569%
|
241
+569%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−505%
|
248
+505%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 50−55
−376%
|
243
+376%
|
Battlefield 5 | 61
−169%
|
160−170
+169%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−456%
|
200
+456%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−378%
|
196
+378%
|
Far Cry 5 | 69
−196%
|
204
+196%
|
Fortnite | 211
−26.5%
|
260−270
+26.5%
|
Forza Horizon 4 | 90
−209%
|
278
+209%
|
Forza Horizon 5 | 60
−360%
|
276
+360%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90
−96.7%
|
170−180
+96.7%
|
Valorant | 292
−9.6%
|
300−350
+9.6%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 50−55
−184%
|
145
+184%
|
Battlefield 5 | 53
−209%
|
160−170
+209%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−353%
|
163
+353%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
−20.3%
|
270−280
+20.3%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−298%
|
163
+298%
|
Dota 2 | 97
−199%
|
290−300
+199%
|
Far Cry 5 | 63
−211%
|
196
+211%
|
Fortnite | 85
−214%
|
260−270
+214%
|
Forza Horizon 4 | 83
−214%
|
261
+214%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−374%
|
256
+374%
|
Grand Theft Auto V | 81
−120%
|
178
+120%
|
Metro Exodus | 35
−391%
|
172
+391%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 86
−106%
|
170−180
+106%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 71
−415%
|
366
+415%
|
Valorant | 260
−23.1%
|
300−350
+23.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 51
−222%
|
160−170
+222%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−314%
|
149
+314%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−266%
|
150
+266%
|
Dota 2 | 92
−204%
|
280−290
+204%
|
Far Cry 5 | 59
−208%
|
182
+208%
|
Forza Horizon 4 | 65
−242%
|
222
+242%
|
Forza Horizon 5 | 41
−193%
|
120−130
+193%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 66
−168%
|
170−180
+168%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 41
−388%
|
200
+388%
|
Valorant | 70
−357%
|
300−350
+357%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 61
−338%
|
260−270
+338%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
−143%
|
50−55
+143%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 130−140
−206%
|
400−450
+206%
|
Grand Theft Auto V | 40
−250%
|
140
+250%
|
Metro Exodus | 20
−430%
|
106
+430%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−1.7%
|
170−180
+1.7%
|
Valorant | 177
−108%
|
350−400
+108%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 39
−267%
|
140−150
+267%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
−450%
|
99
+450%
|
Far Cry 5 | 40
−340%
|
176
+340%
|
Forza Horizon 4 | 46
−339%
|
202
+339%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−186%
|
100−105
+186%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 31
−374%
|
147
+374%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 42
−260%
|
150−160
+260%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 14−16
−240%
|
50−55
+240%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
−300%
|
35−40
+300%
|
Grand Theft Auto V | 33
−361%
|
152
+361%
|
Metro Exodus | 12
−425%
|
63
+425%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 26
−354%
|
118
+354%
|
Valorant | 83
−286%
|
300−350
+286%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21
−381%
|
100−110
+381%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
−133%
|
21
+133%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−463%
|
45
+463%
|
Dota 2 | 59
−205%
|
180−190
+205%
|
Far Cry 5 | 19
−447%
|
104
+447%
|
Forza Horizon 4 | 30
−447%
|
164
+447%
|
Forza Horizon 5 | 16−18
−194%
|
50−55
+194%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 26
−269%
|
95−100
+269%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 11
−618%
|
75−80
+618%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1650 และ RX 7800 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7800 XT เร็วกว่า 213% ในความละเอียด 1080p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 202% ในความละเอียด 1440p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 184% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Epic Preset อุปกรณ์ RX 7800 XT เร็วกว่า 618%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX 7800 XT เหนือกว่า GTX 1650 ในการทดสอบทั้ง 61 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 20.23 | 62.10 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 เมษายน 2019 | 25 สิงหาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 263 วัตต์ |
GTX 1650 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 250.7%
ในทางกลับกัน RX 7800 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 207% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
Radeon RX 7800 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1650 ในการทดสอบประสิทธิภาพ