GeForce RTX 3070 Ti เทียบกับ GTX 1650 Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1650 Max-Q กับ GeForce RTX 3070 Ti รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1650 Max-Q อย่างมหาศาลถึง 277% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 345 | 38 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 83 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 52.72 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 36.65 | 14.30 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU117 | GA104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 6144 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 930 MHz | 1575 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1125 MHz | 1770 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 17,400 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 30 Watt | 290 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 72.00 | 339.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.304 TFLOPS | 21.75 TFLOPS |
ROPs | 32 | 96 |
TMUs | 64 | 192 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 192 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 48 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1751 MHz | 1188 MHz |
112.1 จีบี/s | 608.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.140 | 1.2 |
CUDA | 7.5 | 8.6 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 60
−187%
| 172
+187%
|
1440p | 30
−213%
| 94
+213%
|
4K | 18
−228%
| 59
+228%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.48 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 6.37 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 10.15 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 35−40
−351%
|
170−180
+351%
|
Counter-Strike 2 | 85−90
−307%
|
350
+307%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−456%
|
178
+456%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 35−40
−351%
|
170−180
+351%
|
Battlefield 5 | 64
−153%
|
160−170
+153%
|
Counter-Strike 2 | 85−90
−292%
|
337
+292%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−341%
|
141
+341%
|
Far Cry 5 | 38
−439%
|
205
+439%
|
Fortnite | 138
−84.8%
|
250−260
+84.8%
|
Forza Horizon 4 | 74
−195%
|
210−220
+195%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−338%
|
210
+338%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85
−108%
|
170−180
+108%
|
Valorant | 120−130
−152%
|
300−350
+152%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 35−40
−351%
|
170−180
+351%
|
Battlefield 5 | 54
−200%
|
160−170
+200%
|
Counter-Strike 2 | 85−90
−209%
|
266
+209%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 167
−66.5%
|
270−280
+66.5%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−288%
|
124
+288%
|
Dota 2 | 94
−165%
|
249
+165%
|
Far Cry 5 | 35
−460%
|
196
+460%
|
Fortnite | 80
−219%
|
250−260
+219%
|
Forza Horizon 4 | 69
−216%
|
210−220
+216%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−308%
|
196
+308%
|
Grand Theft Auto V | 56
−209%
|
173
+209%
|
Metro Exodus | 28
−418%
|
145
+418%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 71
−149%
|
170−180
+149%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 53
−455%
|
294
+455%
|
Valorant | 120−130
−152%
|
300−350
+152%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 49
−231%
|
160−170
+231%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−253%
|
113
+253%
|
Dota 2 | 88
−161%
|
230
+161%
|
Far Cry 5 | 33
−455%
|
183
+455%
|
Forza Horizon 4 | 55
−296%
|
210−220
+296%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 53
−234%
|
170−180
+234%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30
−380%
|
144
+380%
|
Valorant | 120−130
−152%
|
300−350
+152%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 59
−332%
|
250−260
+332%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−33
−433%
|
160
+433%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
−268%
|
400−450
+268%
|
Grand Theft Auto V | 24−27
−448%
|
137
+448%
|
Metro Exodus | 16
−456%
|
89
+456%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
−19.9%
|
170−180
+19.9%
|
Valorant | 150−160
−131%
|
350−400
+131%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 36
−283%
|
130−140
+283%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−421%
|
73
+421%
|
Far Cry 5 | 30−35
−355%
|
150
+355%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−389%
|
180−190
+389%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
−352%
|
113
+352%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 36
−319%
|
150−160
+319%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 12−14
−308%
|
45−50
+308%
|
Counter-Strike 2 | 10−12
−327%
|
47
+327%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
−425%
|
147
+425%
|
Metro Exodus | 10
−460%
|
56
+460%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18
−506%
|
109
+506%
|
Valorant | 80−85
−276%
|
300−350
+276%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 19
−411%
|
95−100
+411%
|
Counter-Strike 2 | 10−12
−573%
|
70−75
+573%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
−483%
|
35
+483%
|
Dota 2 | 50−55
−259%
|
194
+259%
|
Far Cry 5 | 16−18
−413%
|
82
+413%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−408%
|
130−140
+408%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 17
−465%
|
95−100
+465%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 11
−618%
|
75−80
+618%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1650 Max-Q และ RTX 3070 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 Ti เร็วกว่า 187% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3070 Ti เร็วกว่า 213% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3070 Ti เร็วกว่า 228% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Epic Preset อุปกรณ์ RTX 3070 Ti เร็วกว่า 618%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 3070 Ti เหนือกว่า GTX 1650 Max-Q ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 13.92 | 52.49 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 เมษายน 2019 | 31 พฤษภาคม 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 30 วัตต์ | 290 วัตต์ |
GTX 1650 Max-Q มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 866.7%
ในทางกลับกัน RTX 3070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 277.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%
GeForce RTX 3070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1650 Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce GTX 1650 Max-Q เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 3070 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป