GeForce RTX 4070 Ti เทียบกับ Radeon RX Vega 56
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 56 และ GeForce RTX 4070 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 56 อย่างมหาศาลถึง 141% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 155 | 8 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 23.54 | 49.03 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.22 | 19.95 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | AD104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RX Vega 56 อยู่ 108%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 7680 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1156 MHz | 2310 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1471 MHz | 2610 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 Watt | 285 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 329.5 | 626.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.54 TFLOPS | 40.09 TFLOPS |
ROPs | 64 | 80 |
TMUs | 224 | 240 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 240 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 285 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 800 MHz | 1313 MHz |
409.6 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 115
−95.7%
| 225
+95.7%
|
1440p | 77
−92.2%
| 148
+92.2%
|
4K | 50
−86%
| 93
+86%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.47
+2.4%
| 3.55
−2.4%
|
1440p | 5.18
+4.2%
| 5.40
−4.2%
|
4K | 7.98
+7.7%
| 8.59
−7.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 90−95
−240%
|
316
+240%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−180%
|
190−200
+180%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−228%
|
236
+228%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 90−95
−172%
|
253
+172%
|
Battlefield 5 | 151
−27.8%
|
190−200
+27.8%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−180%
|
190−200
+180%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−203%
|
218
+203%
|
Far Cry 5 | 98
−115%
|
211
+115%
|
Fortnite | 150
−101%
|
300−350
+101%
|
Forza Horizon 4 | 141
−124%
|
300−350
+124%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−162%
|
244
+162%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 153
−15.7%
|
170−180
+15.7%
|
Valorant | 190−200
−137%
|
450−500
+137%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 90−95
−93.5%
|
180
+93.5%
|
Battlefield 5 | 140
−37.9%
|
190−200
+37.9%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−180%
|
190−200
+180%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.7%
|
270−280
+0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−157%
|
185
+157%
|
Dota 2 | 130−140
−89.1%
|
259
+89.1%
|
Far Cry 5 | 93
−118%
|
203
+118%
|
Fortnite | 139
−117%
|
300−350
+117%
|
Forza Horizon 4 | 134
−136%
|
300−350
+136%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−145%
|
228
+145%
|
Grand Theft Auto V | 94
−89.4%
|
178
+89.4%
|
Metro Exodus | 70
−181%
|
197
+181%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 137
−29.2%
|
170−180
+29.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 124
−265%
|
453
+265%
|
Valorant | 190−200
−137%
|
450−500
+137%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 131
−47.3%
|
190−200
+47.3%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−180%
|
190−200
+180%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−132%
|
167
+132%
|
Dota 2 | 130−140
−77.4%
|
243
+77.4%
|
Far Cry 5 | 89
−112%
|
189
+112%
|
Forza Horizon 4 | 109
−190%
|
300−350
+190%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−137%
|
220−230
+137%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120
−47.5%
|
170−180
+47.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 74
−200%
|
222
+200%
|
Valorant | 190−200
−137%
|
450−500
+137%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 108
−180%
|
300−350
+180%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
−263%
|
95−100
+263%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
−136%
|
500−550
+136%
|
Grand Theft Auto V | 60−65
−152%
|
156
+152%
|
Metro Exodus | 42
−212%
|
131
+212%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−107%
|
450−500
+107%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 99
−98%
|
190−200
+98%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−200%
|
105
+200%
|
Far Cry 5 | 74
−146%
|
182
+146%
|
Forza Horizon 4 | 88
−220%
|
280−290
+220%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−128%
|
130−140
+128%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−249%
|
190−200
+249%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 74
−104%
|
150−160
+104%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−208%
|
75−80
+208%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−347%
|
65−70
+347%
|
Grand Theft Auto V | 50
−244%
|
172
+244%
|
Metro Exodus | 27
−211%
|
84
+211%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
−239%
|
149
+239%
|
Valorant | 190−200
−72.9%
|
300−350
+72.9%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55
−147%
|
130−140
+147%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−347%
|
65−70
+347%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−220%
|
48
+220%
|
Dota 2 | 95−100
−133%
|
226
+133%
|
Far Cry 5 | 39
−185%
|
111
+185%
|
Forza Horizon 4 | 59
−320%
|
240−250
+320%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−127%
|
75−80
+127%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 44
−118%
|
95−100
+118%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 37
−114%
|
75−80
+114%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 56 และ RTX 4070 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 96% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 92% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 86% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti เร็วกว่า 347%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 33.79 | 81.56 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 สิงหาคม 2017 | 3 มกราคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 วัตต์ | 285 วัตต์ |
RX Vega 56 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 35.7%
ในทางกลับกัน RTX 4070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 141.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 250%
GeForce RTX 4070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 56 ในการทดสอบประสิทธิภาพ