GeForce GTX 580 เทียบกับ Radeon RX Vega 56
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 56 และ GeForce GTX 580 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX Vega 56 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 580 อย่างมหาศาลถึง 185% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 159 | 418 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 20.59 | 1.81 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.15 | 3.37 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Fermi 2.0 (2010−2014) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | GF110 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 9 พฤศจิกายน 2010 (เมื่อ 14 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX Vega 56 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 580 อยู่ 1038%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 512 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1156 MHz | 772 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1471 MHz | ไม่มีข้อมูล |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 3,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 40 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 Watt | 244 Watt |
อุณหภูมิ GPU สูงสุด | ไม่มีข้อมูล | 97 °C |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 329.5 | 49.41 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.54 TFLOPS | 1.581 TFLOPS |
ROPs | 64 | 48 |
TMUs | 224 | 64 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | ไม่มีข้อมูล | PCI-E 2.0 x 16 |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 2.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความสูง | ไม่มีข้อมูล | 11.1 ซม |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ตัวเลือก SLI | - | + |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 1536 เอ็มบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 800 MHz | 2004 MHz (4008 data rate) |
409.6 จีบี/s | 192.4 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | Mini HDMITwo Dual Link DVI |
รองรับหลายจอภาพ | ไม่มีข้อมูล | + |
HDMI | + | + |
ความละเอียด VGA สูงสุด | ไม่มีข้อมูล | 2048x1536 |
อินพุตเสียงสำหรับ HDMI | ไม่มีข้อมูล | Internal |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (11_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 5.1 |
OpenGL | 4.6 | 4.2 |
OpenCL | 2.0 | 1.1 |
Vulkan | 1.1.125 | + |
CUDA | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 150−160
+183%
| 53
−183%
|
Full HD | 115
+16.2%
| 99
−16.2%
|
1200p | 220−230
+182%
| 78
−182%
|
1440p | 77
+185%
| 27−30
−185%
|
4K | 50
+213%
| 16−18
−213%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.47
+45.3%
| 5.04
−45.3%
|
1440p | 5.18
+257%
| 18.48
−257%
|
4K | 7.98
+291%
| 31.19
−291%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 90−95
+229%
|
27−30
−229%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
+200%
|
60−65
−200%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+213%
|
21−24
−213%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 90−95
+229%
|
27−30
−229%
|
Battlefield 5 | 151
+208%
|
45−50
−208%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
+200%
|
60−65
−200%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+213%
|
21−24
−213%
|
Far Cry 5 | 98
+158%
|
35−40
−158%
|
Fortnite | 150
+127%
|
65−70
−127%
|
Forza Horizon 4 | 141
+194%
|
45−50
−194%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
+186%
|
35−40
−186%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 153
+283%
|
40−45
−283%
|
Valorant | 190−200
+94.1%
|
100−110
−94.1%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 90−95
+229%
|
27−30
−229%
|
Battlefield 5 | 140
+186%
|
45−50
−186%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
+200%
|
60−65
−200%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+68.7%
|
160−170
−68.7%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+213%
|
21−24
−213%
|
Dota 2 | 130−140
+76.6%
|
75−80
−76.6%
|
Far Cry 5 | 93
+145%
|
35−40
−145%
|
Fortnite | 139
+111%
|
65−70
−111%
|
Forza Horizon 4 | 134
+179%
|
45−50
−179%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
+186%
|
35−40
−186%
|
Grand Theft Auto V | 94
+119%
|
40−45
−119%
|
Metro Exodus | 70
+204%
|
21−24
−204%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 137
+243%
|
40−45
−243%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 124
+313%
|
30−33
−313%
|
Valorant | 190−200
+94.1%
|
100−110
−94.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 131
+167%
|
45−50
−167%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+213%
|
21−24
−213%
|
Dota 2 | 130−140
+76.6%
|
75−80
−76.6%
|
Far Cry 5 | 89
+134%
|
35−40
−134%
|
Forza Horizon 4 | 109
+127%
|
45−50
−127%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120
+200%
|
40−45
−200%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 74
+147%
|
30−33
−147%
|
Valorant | 190−200
+94.1%
|
100−110
−94.1%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 108
+63.6%
|
65−70
−63.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 75−80
+267%
|
21−24
−267%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
+159%
|
85−90
−159%
|
Grand Theft Auto V | 60−65
+265%
|
16−18
−265%
|
Metro Exodus | 42
+223%
|
12−14
−223%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+136%
|
70−75
−136%
|
Valorant | 230−240
+91.8%
|
120−130
−91.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 99
+241%
|
27−30
−241%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+250%
|
10−11
−250%
|
Far Cry 5 | 74
+208%
|
24−27
−208%
|
Forza Horizon 4 | 88
+226%
|
27−30
−226%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
+217%
|
18−20
−217%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 74
+208%
|
24−27
−208%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
+178%
|
9−10
−178%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+483%
|
6−7
−483%
|
Grand Theft Auto V | 50
+127%
|
21−24
−127%
|
Metro Exodus | 27
+286%
|
7−8
−286%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
+214%
|
14−16
−214%
|
Valorant | 190−200
+220%
|
60−65
−220%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55
+267%
|
14−16
−267%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+483%
|
6−7
−483%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
+275%
|
4−5
−275%
|
Dota 2 | 95−100
+137%
|
40−45
−137%
|
Far Cry 5 | 39
+225%
|
12−14
−225%
|
Forza Horizon 4 | 59
+211%
|
18−20
−211%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 44
+300%
|
10−12
−300%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 37
+236%
|
10−12
−236%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 56 และ GTX 580 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 56 เร็วกว่า 183% ในความละเอียด 900p
- RX Vega 56 เร็วกว่า 16% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 56 เร็วกว่า 182% ในความละเอียด 1200p
- RX Vega 56 เร็วกว่า 185% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 56 เร็วกว่า 213% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 56 เร็วกว่า 483%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX Vega 56 เหนือกว่า GTX 580 ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 29.42 | 10.34 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 สิงหาคม 2017 | 9 พฤศจิกายน 2010 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 1536 เอ็มบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 40 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 วัตต์ | 244 วัตต์ |
RX Vega 56 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 184.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 185.7%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 16.2%
Radeon RX Vega 56 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ