Radeon RX 7600 เทียบกับ RX 7900 XT
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7900 XT และ Radeon RX 7600 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7900 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 7600 อย่างน่าประทับใจ 74% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 14 | 87 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 89 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 37.83 | 93.50 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.23 | 18.03 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 31 | Navi 33 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 พฤศจิกายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 24 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $899 | $269 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7600 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 7900 XT อยู่ 147%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 5376 | 2048 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1387 MHz | 1720 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2394 MHz | 2655 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 57,700 million | 13,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 Watt | 165 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 804.4 | 339.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 51.48 TFLOPS | 21.75 TFLOPS |
ROPs | 192 | 64 |
TMUs | 336 | 128 |
Ray Tracing Cores | 84 | 32 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 276 mm | 204 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 20 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 320 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2500 MHz | 2250 MHz |
800.0 จีบี/s | 288.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 201
+38.6%
| 145
−38.6%
|
1440p | 137
+104%
| 67
−104%
|
4K | 86
+146%
| 35
−146%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.47
−141%
| 1.86
+141%
|
1440p | 6.56
−63.4%
| 4.01
+63.4%
|
4K | 10.45
−36%
| 7.69
+36%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 328
+54%
|
213
−54%
|
Counter-Strike 2 | 170−180
+31.1%
|
135
−31.1%
|
Cyberpunk 2077 | 237
+60.1%
|
148
−60.1%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 262
+65.8%
|
158
−65.8%
|
Battlefield 5 | 180−190
+34.1%
|
130−140
−34.1%
|
Counter-Strike 2 | 190
+75.9%
|
108
−75.9%
|
Cyberpunk 2077 | 212
+81.2%
|
117
−81.2%
|
Far Cry 5 | 196
+7.1%
|
183
−7.1%
|
Fortnite | 300−350
+75.6%
|
170−180
−75.6%
|
Forza Horizon 4 | 270−280
+81.2%
|
150−160
−81.2%
|
Forza Horizon 5 | 244
+107%
|
110−120
−107%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+13.5%
|
150−160
−13.5%
|
Valorant | 400−450
+74.5%
|
230−240
−74.5%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 170
+82.8%
|
93
−82.8%
|
Battlefield 5 | 180−190
+34.1%
|
130−140
−34.1%
|
Counter-Strike 2 | 186
+107%
|
90
−107%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 190
+90%
|
100
−90%
|
Dota 2 | 199
+80.9%
|
110−120
−80.9%
|
Far Cry 5 | 187
+7.5%
|
174
−7.5%
|
Fortnite | 300−350
+75.6%
|
170−180
−75.6%
|
Forza Horizon 4 | 270−280
+81.2%
|
150−160
−81.2%
|
Forza Horizon 5 | 223
+89%
|
110−120
−89%
|
Grand Theft Auto V | 173
+15.3%
|
150
−15.3%
|
Metro Exodus | 146
+29.2%
|
113
−29.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+13.5%
|
150−160
−13.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 483
+130%
|
210
−130%
|
Valorant | 400−450
+74.5%
|
230−240
−74.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 180−190
+34.1%
|
130−140
−34.1%
|
Counter-Strike 2 | 168
+107%
|
81
−107%
|
Cyberpunk 2077 | 179
+98.9%
|
90
−98.9%
|
Dota 2 | 184
+84%
|
100−105
−84%
|
Far Cry 5 | 173
+6.1%
|
163
−6.1%
|
Forza Horizon 4 | 270−280
+81.2%
|
150−160
−81.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+13.5%
|
150−160
−13.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 265
+115%
|
123
−115%
|
Valorant | 400−450
+74.5%
|
230−240
−74.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+75.6%
|
170−180
−75.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 75−80
+134%
|
30−35
−134%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+87.6%
|
270−280
−87.6%
|
Grand Theft Auto V | 159
+106%
|
77
−106%
|
Metro Exodus | 135
+108%
|
65
−108%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+85.8%
|
260−270
−85.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 180−190
+78.2%
|
100−110
−78.2%
|
Cyberpunk 2077 | 122
+118%
|
56
−118%
|
Far Cry 5 | 173
+50.4%
|
115
−50.4%
|
Forza Horizon 4 | 240−250
+112%
|
110−120
−112%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 170−180
+97.7%
|
86
−97.7%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+42.5%
|
100−110
−42.5%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 65−70
+100%
|
30−35
−100%
|
Counter-Strike 2 | 50−55
+165%
|
20−22
−165%
|
Grand Theft Auto V | 175
+113%
|
82
−113%
|
Metro Exodus | 87
+129%
|
38
−129%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 159
+169%
|
59
−169%
|
Valorant | 300−350
+36.6%
|
240−250
−36.6%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+109%
|
60−65
−109%
|
Counter-Strike 2 | 30
+173%
|
11
−173%
|
Cyberpunk 2077 | 60
+150%
|
24
−150%
|
Dota 2 | 153
+80%
|
85−90
−80%
|
Far Cry 5 | 132
+132%
|
57
−132%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
+160%
|
75−80
−160%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+74.5%
|
55−60
−74.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+49.1%
|
50−55
−49.1%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7900 XT และ RX 7600 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XT เร็วกว่า 39% ในความละเอียด 1080p
- RX 7900 XT เร็วกว่า 104% ในความละเอียด 1440p
- RX 7900 XT เร็วกว่า 146% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7900 XT เร็วกว่า 173%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XT เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 74.17 | 42.68 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 พฤศจิกายน 2022 | 24 พฤษภาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 20 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 5 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 วัตต์ | 165 วัตต์ |
RX 7900 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 73.8% และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
ในทางกลับกัน RX 7600 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 81.8%
Radeon RX 7900 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 7600 ในการทดสอบประสิทธิภาพ