GeForce RTX 4070 เทียบกับ Radeon RX 6800
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 6800 และ GeForce RTX 4070 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6800 อย่างมาก 22% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 46 | 24 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 36 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 50.26 | 60.53 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.83 | 24.11 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 21 | AD104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 28 ตุลาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 12 เมษายน 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $579 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 6800 อยู่ 20%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 5888 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1700 MHz | 1920 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2105 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 26,800 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 200 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 505.2 | 455.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.17 TFLOPS | 29.15 TFLOPS |
ROPs | 96 | 64 |
TMUs | 240 | 184 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 184 |
Ray Tracing Cores | 60 | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 240 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1313 MHz |
512.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 2x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 177
−21.5%
| 215
+21.5%
|
1440p | 99
−22.2%
| 121
+22.2%
|
4K | 61
−19.7%
| 73
+19.7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.27
−17.4%
| 2.79
+17.4%
|
1440p | 5.85
−18.1%
| 4.95
+18.1%
|
4K | 9.49
−15.7%
| 8.21
+15.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 262
−22.1%
|
320
+22.1%
|
Counter-Strike 2 | 186
+12%
|
160−170
−12%
|
Cyberpunk 2077 | 135
−60%
|
216
+60%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 198
−26.3%
|
250
+26.3%
|
Battlefield 5 | 150−160
−10.8%
|
170−180
+10.8%
|
Counter-Strike 2 | 148
−12.2%
|
160−170
+12.2%
|
Cyberpunk 2077 | 115
−51.3%
|
174
+51.3%
|
Far Cry 5 | 197
−6.6%
|
210
+6.6%
|
Fortnite | 230−240
−29.1%
|
300−350
+29.1%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−24.9%
|
250−260
+24.9%
|
Forza Horizon 5 | 232
+22.8%
|
180−190
−22.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 290−300
−25.4%
|
350−400
+25.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 120
−23.3%
|
148
+23.3%
|
Battlefield 5 | 150−160
−10.8%
|
170−180
+10.8%
|
Counter-Strike 2 | 118
−40.7%
|
160−170
+40.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 104
−37.5%
|
143
+37.5%
|
Dota 2 | 145
−17.2%
|
170−180
+17.2%
|
Far Cry 5 | 186
−9.7%
|
204
+9.7%
|
Fortnite | 230−240
−29.1%
|
300−350
+29.1%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−24.9%
|
250−260
+24.9%
|
Forza Horizon 5 | 210
+11.1%
|
180−190
−11.1%
|
Grand Theft Auto V | 159
−9.4%
|
174
+9.4%
|
Metro Exodus | 147
−14.3%
|
168
+14.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 269
−30.5%
|
351
+30.5%
|
Valorant | 290−300
−25.4%
|
350−400
+25.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 150−160
−10.8%
|
170−180
+10.8%
|
Counter-Strike 2 | 130−140
−24.8%
|
160−170
+24.8%
|
Cyberpunk 2077 | 99
−29.3%
|
128
+29.3%
|
Dota 2 | 128
−17.2%
|
150−160
+17.2%
|
Far Cry 5 | 174
−8.6%
|
189
+8.6%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−24.9%
|
250−260
+24.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 152
−11.8%
|
170
+11.8%
|
Valorant | 290−300
−25.4%
|
350−400
+25.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 230−240
−29.1%
|
300−350
+29.1%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
−45.5%
|
60−65
+45.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 350−400
−31.7%
|
450−500
+31.7%
|
Grand Theft Auto V | 125
−9.6%
|
137
+9.6%
|
Metro Exodus | 89
−16.9%
|
104
+16.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 300−350
−35.8%
|
400−450
+35.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
−25.4%
|
160−170
+25.4%
|
Cyberpunk 2077 | 74
−9.5%
|
81
+9.5%
|
Far Cry 5 | 163
−4.9%
|
171
+4.9%
|
Forza Horizon 4 | 160−170
−31.7%
|
220−230
+31.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110−120
−35.4%
|
150−160
+35.4%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 140−150
−2%
|
150−160
+2%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 45−50
−30.4%
|
60−65
+30.4%
|
Counter-Strike 2 | 30−33
−50%
|
45−50
+50%
|
Grand Theft Auto V | 132
−10.6%
|
146
+10.6%
|
Metro Exodus | 55
−18.2%
|
65
+18.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 99
−16.2%
|
115
+16.2%
|
Valorant | 300−350
−8.5%
|
300−350
+8.5%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
−32.2%
|
110−120
+32.2%
|
Counter-Strike 2 | 14
−221%
|
45−50
+221%
|
Cyberpunk 2077 | 34
−5.9%
|
36
+5.9%
|
Dota 2 | 102
−17.6%
|
120−130
+17.6%
|
Far Cry 5 | 91
−2.2%
|
93
+2.2%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−45.8%
|
170−180
+45.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
−5.5%
|
95−100
+5.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
−1.3%
|
75−80
+1.3%
|
นี่คือวิธีที่ RX 6800 และ RTX 4070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เร็วกว่า 21% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 เร็วกว่า 22% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 เร็วกว่า 20% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 6800 เร็วกว่า 23%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4070 เร็วกว่า 221%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 6800 เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- RTX 4070 เหนือกว่าใน 53การทดสอบ (87%)
- เสมอกันใน 5การทดสอบ (8%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 56.77 | 69.19 |
ความใหม่ล่าสุด | 28 ตุลาคม 2020 | 12 เมษายน 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 200 วัตต์ |
RX 6800 มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RTX 4070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 21.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 25%
GeForce RTX 4070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 6800 ในการทดสอบประสิทธิภาพ