Radeon Pro W6800 เทียบกับ RX 6800 XT
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 6800 XT กับ Radeon Pro W6800 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 6800 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro W6800 อย่างมาก 26% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 31 | 55 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 50.66 | 25.37 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.90 | 14.20 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 21 | Navi 21 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 28 ตุลาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มิถุนายน 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $649 | $2,249 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 6800 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า Pro W6800 อยู่ 100%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4608 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1825 MHz | 2075 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2250 MHz | 2320 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 26,800 million | 26,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 Watt | 250 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 648.0 | 556.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 20.74 TFLOPS | 17.82 TFLOPS |
ROPs | 128 | 96 |
TMUs | 288 | 240 |
Ray Tracing Cores | 72 | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 32 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2000 MHz |
512.0 จีบี/s | 512.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 2x DisplayPort, 1x USB Type-C | 6x mini-DisplayPort |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 2.1 |
Vulkan | 1.2 | 1.2 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 207
+51.1%
| 137
−51.1%
|
1440p | 150
+29.3%
| 116
−29.3%
|
4K | 100
+19%
| 84
−19%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.14
+424%
| 16.42
−424%
|
1440p | 4.33
+348%
| 19.39
−348%
|
4K | 6.49
+313%
| 26.77
−313%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 180−190
+26.4%
|
140−150
−26.4%
|
Counter-Strike 2 | 150−160
+31.9%
|
110−120
−31.9%
|
Cyberpunk 2077 | 140−150
+29.6%
|
110−120
−29.6%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 180−190
+26.4%
|
140−150
−26.4%
|
Battlefield 5 | 191
+29.1%
|
140−150
−29.1%
|
Counter-Strike 2 | 150−160
+31.9%
|
110−120
−31.9%
|
Cyberpunk 2077 | 140−150
+29.6%
|
110−120
−29.6%
|
Far Cry 5 | 143
+104%
|
70
−104%
|
Fortnite | 280−290
+37.6%
|
200−210
−37.6%
|
Forza Horizon 4 | 230−240
+27.9%
|
180−190
−27.9%
|
Forza Horizon 5 | 170−180
+24.8%
|
140−150
−24.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+2.3%
|
170−180
−2.3%
|
Valorant | 300−350
+25.8%
|
260−270
−25.8%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 180−190
+26.4%
|
140−150
−26.4%
|
Battlefield 5 | 183
+23.6%
|
140−150
−23.6%
|
Counter-Strike 2 | 150−160
+31.9%
|
110−120
−31.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 140−150
+29.6%
|
110−120
−29.6%
|
Dota 2 | 166
+67.7%
|
99
−67.7%
|
Far Cry 5 | 139
+114%
|
65
−114%
|
Fortnite | 280−290
+37.6%
|
200−210
−37.6%
|
Forza Horizon 4 | 230−240
+27.9%
|
180−190
−27.9%
|
Forza Horizon 5 | 170−180
+24.8%
|
140−150
−24.8%
|
Grand Theft Auto V | 150
+24%
|
121
−24%
|
Metro Exodus | 152
−5.3%
|
160
+5.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+2.3%
|
170−180
−2.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 294
+47.7%
|
199
−47.7%
|
Valorant | 300−350
+25.8%
|
260−270
−25.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 175
+18.2%
|
140−150
−18.2%
|
Counter-Strike 2 | 150−160
+31.9%
|
110−120
−31.9%
|
Cyberpunk 2077 | 140−150
+29.6%
|
110−120
−29.6%
|
Dota 2 | 145
+68.6%
|
86
−68.6%
|
Far Cry 5 | 130
+110%
|
62
−110%
|
Forza Horizon 4 | 230−240
+27.9%
|
180−190
−27.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+2.3%
|
170−180
−2.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 160
+1.9%
|
157
−1.9%
|
Valorant | 356
+34.8%
|
260−270
−34.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 280−290
+37.6%
|
200−210
−37.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 50−55
+42.1%
|
35−40
−42.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 400−450
+34%
|
300−350
−34%
|
Grand Theft Auto V | 120
+36.4%
|
88
−36.4%
|
Metro Exodus | 95
−80%
|
171
+80%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 350−400
+32%
|
290−300
−32%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 154
+31.6%
|
110−120
−31.6%
|
Cyberpunk 2077 | 80−85
+38.3%
|
60−65
−38.3%
|
Far Cry 5 | 131
+105%
|
64
−105%
|
Forza Horizon 4 | 190−200
+36.6%
|
140−150
−36.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 130−140
+40.2%
|
95−100
−40.2%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+15.3%
|
130−140
−15.3%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 50−55
+35%
|
40−45
−35%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+52%
|
24−27
−52%
|
Grand Theft Auto V | 134
+7.2%
|
125
−7.2%
|
Metro Exodus | 56
+1.8%
|
55
−1.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110
+11.1%
|
99
−11.1%
|
Valorant | 300−350
+14.8%
|
280−290
−14.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 103
+32.1%
|
75−80
−32.1%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+52%
|
24−27
−52%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+42.9%
|
27−30
−42.9%
|
Dota 2 | 122
+29.8%
|
94
−29.8%
|
Far Cry 5 | 95
+58.3%
|
60
−58.3%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
+49.5%
|
95−100
−49.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+28%
|
75−80
−28%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+16.2%
|
65−70
−16.2%
|
นี่คือวิธีที่ RX 6800 XT และ Pro W6800 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 6800 XT เร็วกว่า 51% ในความละเอียด 1080p
- RX 6800 XT เร็วกว่า 29% ในความละเอียด 1440p
- RX 6800 XT เร็วกว่า 19% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 6800 XT เร็วกว่า 114%
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Pro W6800 เร็วกว่า 80%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 6800 XT เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (94%)
- Pro W6800 เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 64.14 | 50.92 |
ความใหม่ล่าสุด | 28 ตุลาคม 2020 | 8 มิถุนายน 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 32 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 วัตต์ | 250 วัตต์ |
RX 6800 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 26%
ในทางกลับกัน Pro W6800 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 เดือนและและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 20%
Radeon RX 6800 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro W6800 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 6800 XT เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon Pro W6800 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน