Radeon RX 590 เทียบกับ RX 580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 580 และ Radeon RX 590 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 590 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 580 เล็กน้อย 6% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 244 | 230 |
จัดอันดับตามความนิยม | 1 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 18.25 | 24.80 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.60 | 9.65 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | GCN 4.0 (2016−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | Polaris 30 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 15 พฤศจิกายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | $279 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 590 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 580 อยู่ 36%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 2304 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1257 MHz | 1469 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1340 MHz | 1545 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 5,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 Watt | 175 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 193.0 | 222.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.175 TFLOPS | 7.119 TFLOPS |
ROPs | 32 | 32 |
TMUs | 144 | 144 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2000 MHz |
256.0 จีบี/s | 256.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 96
−6.3%
| 102
+6.3%
|
1440p | 44
−38.6%
| 61
+38.6%
|
4K | 38
+2.7%
| 37
−2.7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.39
−14.7%
| 2.74
+14.7%
|
1440p | 5.20
+13.8%
| 4.57
−13.8%
|
4K | 6.03
−25.1%
| 7.54
+25.1%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Cyberpunk 2077 | 35−40
−8.1%
|
40−45
+8.1%
|
Full HD
Medium Preset
Assassin's Creed Odyssey | 58
−12.1%
|
65
+12.1%
|
Assassin's Creed Valhalla | 35−40
−121%
|
86
+121%
|
Battlefield 5 | 138
+1.5%
|
136
−1.5%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 45−50
−46.8%
|
69
+46.8%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−8.1%
|
40−45
+8.1%
|
Far Cry 5 | 83
−8.4%
|
90
+8.4%
|
Far Cry New Dawn | 83
−8.4%
|
90
+8.4%
|
Forza Horizon 4 | 294
+7.3%
|
274
−7.3%
|
Hitman 3 | 45−50
−6.5%
|
45−50
+6.5%
|
Horizon Zero Dawn | 100−110
−179%
|
301
+179%
|
Metro Exodus | 111
−11.7%
|
124
+11.7%
|
Red Dead Redemption 2 | 60−65
−51.7%
|
91
+51.7%
|
Shadow of the Tomb Raider | 122
−14.8%
|
140
+14.8%
|
Watch Dogs: Legion | 95−100
−175%
|
272
+175%
|
Full HD
High Preset
Assassin's Creed Odyssey | 101
−11.9%
|
113
+11.9%
|
Assassin's Creed Valhalla | 35−40
−87.2%
|
73
+87.2%
|
Battlefield 5 | 113
−8%
|
122
+8%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 45−50
−36.2%
|
64
+36.2%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−8.1%
|
40−45
+8.1%
|
Far Cry 5 | 69
−7.2%
|
74
+7.2%
|
Far Cry New Dawn | 64
−10.9%
|
71
+10.9%
|
Forza Horizon 4 | 270
+4.2%
|
259
−4.2%
|
Hitman 3 | 45−50
−6.5%
|
45−50
+6.5%
|
Horizon Zero Dawn | 100−110
−166%
|
287
+166%
|
Metro Exodus | 87
−11.5%
|
97
+11.5%
|
Red Dead Redemption 2 | 60−65
−23.3%
|
74
+23.3%
|
Shadow of the Tomb Raider | 75−80
−48.1%
|
114
+48.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 50−55
−6%
|
50−55
+6%
|
Watch Dogs: Legion | 95−100
−164%
|
261
+164%
|
Full HD
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 34
−14.7%
|
39
+14.7%
|
Assassin's Creed Valhalla | 35−40
−59%
|
62
+59%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 45−50
+2.2%
|
46
−2.2%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−8.1%
|
40−45
+8.1%
|
Far Cry 5 | 49
−12.2%
|
55
+12.2%
|
Forza Horizon 4 | 82
−11%
|
91
+11%
|
Hitman 3 | 45−50
−6.5%
|
45−50
+6.5%
|
Horizon Zero Dawn | 100−110
+12.5%
|
96
−12.5%
|
Shadow of the Tomb Raider | 75−80
−29.9%
|
100
+29.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
−15.9%
|
51
+15.9%
|
Watch Dogs: Legion | 95−100
+183%
|
35
−183%
|
Full HD
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 60−65
−6.7%
|
64
+6.7%
|
1440p
High Preset
Battlefield 5 | 40−45
−4.5%
|
45−50
+4.5%
|
Far Cry New Dawn | 35−40
−5.7%
|
35−40
+5.7%
|
1440p
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 24−27
−4.2%
|
24−27
+4.2%
|
Assassin's Creed Valhalla | 21−24
−150%
|
55
+150%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 24−27
−46.2%
|
38
+46.2%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−7.1%
|
14−16
+7.1%
|
Far Cry 5 | 24−27
−7.7%
|
27−30
+7.7%
|
Forza Horizon 4 | 130−140
−6.9%
|
130−140
+6.9%
|
Hitman 3 | 27−30
−7.4%
|
27−30
+7.4%
|
Horizon Zero Dawn | 45−50
−53.2%
|
72
+53.2%
|
Metro Exodus | 53
−9.4%
|
58
+9.4%
|
Shadow of the Tomb Raider | 45−50
−42.9%
|
70
+42.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−7.1%
|
30−33
+7.1%
|
Watch Dogs: Legion | 130−140
−53.8%
|
203
+53.8%
|
1440p
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 35−40
−13.2%
|
43
+13.2%
|
4K
High Preset
Battlefield 5 | 37
−5.4%
|
39
+5.4%
|
Far Cry New Dawn | 22
−18.2%
|
26
+18.2%
|
Hitman 3 | 18−20
−5.6%
|
18−20
+5.6%
|
Horizon Zero Dawn | 110−120
+109%
|
57
−109%
|
Metro Exodus | 33
−9.1%
|
36
+9.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27
−18.5%
|
32
+18.5%
|
4K
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 18
−5.6%
|
19
+5.6%
|
Assassin's Creed Valhalla | 12−14
−250%
|
42
+250%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 12−14
−53.8%
|
20
+53.8%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−20%
|
6−7
+20%
|
Far Cry 5 | 16
−6.3%
|
17
+6.3%
|
Forza Horizon 4 | 41
−12.2%
|
46
+12.2%
|
Shadow of the Tomb Raider | 27−30
−48.1%
|
40
+48.1%
|
Watch Dogs: Legion | 10−11
−30%
|
13
+30%
|
4K
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 20−22
−50%
|
30
+50%
|
นี่คือวิธีที่ RX 580 และ RX 590 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 590 เร็วกว่า 6% ในความละเอียด 1080p
- RX 590 เร็วกว่า 39% ในความละเอียด 1440p
- RX 580 เร็วกว่า 3% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Watch Dogs: Legion ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 580 เร็วกว่า 183%
- ในเกม Assassin's Creed Valhalla ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 590 เร็วกว่า 250%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เหนือกว่าใน 7การทดสอบ (10%)
- RX 590 เหนือกว่าใน 65การทดสอบ (90%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 23.00 | 24.41 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 15 พฤศจิกายน 2018 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 วัตต์ | 175 วัตต์ |
RX 590 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 6.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 16.7%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 5.7%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง Radeon RX 580 และ Radeon RX 590 ได้อย่างชัดเจน
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ