Radeon RX 590 เทียบกับ RX 570
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 570 และ Radeon RX 590 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 590 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 570 อย่างมหาศาล 35% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 315 | 237 |
จัดอันดับตามความนิยม | 16 | 100 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 15.00 | 24.21 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.39 | 9.60 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | GCN 4.0 (2016−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | Polaris 30 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 15 พฤศจิกายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $169 | $279 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 590 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 570 อยู่ 61%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 2304 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1168 MHz | 1469 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1244 MHz | 1545 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 5,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 175 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 159.2 | 222.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.095 TFLOPS | 7.119 TFLOPS |
ROPs | 32 | 32 |
TMUs | 128 | 144 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 2000 MHz |
224.0 จีบี/s | 256.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | + | 1.2.131 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 85
−23.5%
| 105
+23.5%
|
1440p | 48
−33.3%
| 64
+33.3%
|
4K | 30
−30%
| 39
+30%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.99
+33.6%
| 2.66
−33.6%
|
1440p | 3.52
+23.8%
| 4.36
−23.8%
|
4K | 5.63
+27%
| 7.15
−27%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 40−45
−43.2%
|
60−65
+43.2%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−41.9%
|
40−45
+41.9%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−36.1%
|
45−50
+36.1%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 40−45
−43.2%
|
60−65
+43.2%
|
Battlefield 5 | 88
−51.1%
|
133
+51.1%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−41.9%
|
40−45
+41.9%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−36.1%
|
45−50
+36.1%
|
Far Cry 5 | 77
−10.4%
|
85
+10.4%
|
Fortnite | 238
+71.2%
|
139
−71.2%
|
Forza Horizon 4 | 100
−20%
|
120
+20%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−38.3%
|
65−70
+38.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
−25%
|
120
+25%
|
Valorant | 130−140
−126%
|
301
+126%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 40−45
−43.2%
|
60−65
+43.2%
|
Battlefield 5 | 75
−48%
|
111
+48%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−41.9%
|
40−45
+41.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
−16.7%
|
250−260
+16.7%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−36.1%
|
45−50
+36.1%
|
Dota 2 | 100−110
−17.8%
|
110−120
+17.8%
|
Far Cry 5 | 70
−12.9%
|
79
+12.9%
|
Fortnite | 95
−45.3%
|
138
+45.3%
|
Forza Horizon 4 | 94
−20.2%
|
113
+20.2%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−38.3%
|
65−70
+38.3%
|
Grand Theft Auto V | 73
−8.2%
|
79
+8.2%
|
Metro Exodus | 43
−20.9%
|
52
+20.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 87
−24.1%
|
108
+24.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 77
−14.3%
|
88
+14.3%
|
Valorant | 130−140
−116%
|
287
+116%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 68
−47.1%
|
100
+47.1%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−41.9%
|
40−45
+41.9%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−36.1%
|
45−50
+36.1%
|
Dota 2 | 100−110
−17.8%
|
110−120
+17.8%
|
Far Cry 5 | 65
−13.8%
|
74
+13.8%
|
Forza Horizon 4 | 75
−21.3%
|
91
+21.3%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−38.3%
|
65−70
+38.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 69
−20.3%
|
83
+20.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
−18.6%
|
51
+18.6%
|
Valorant | 130−140
+20.9%
|
110
−20.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 72
−33.3%
|
96
+33.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
−21.1%
|
21−24
+21.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
−30.6%
|
160−170
+30.6%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
−46.4%
|
40−45
+46.4%
|
Metro Exodus | 25
−24%
|
31
+24%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−6.7%
|
170−180
+6.7%
|
Valorant | 160−170
−38.9%
|
232
+38.9%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 52
−23.1%
|
60−65
+23.1%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−37.5%
|
21−24
+37.5%
|
Far Cry 5 | 46
−13%
|
50−55
+13%
|
Forza Horizon 4 | 59
+0%
|
55−60
+0%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−32.3%
|
40−45
+32.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−40.7%
|
35−40
+40.7%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 45
−20%
|
50−55
+20%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 14−16
−28.6%
|
18−20
+28.6%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−37.5%
|
10−12
+37.5%
|
Grand Theft Auto V | 30
−36.7%
|
41
+36.7%
|
Metro Exodus | 16
−18.8%
|
19
+18.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 28
−14.3%
|
32
+14.3%
|
Valorant | 95−100
−18.9%
|
113
+18.9%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 31
−29%
|
40
+29%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−37.5%
|
10−12
+37.5%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−42.9%
|
10−11
+42.9%
|
Dota 2 | 55−60
−28.8%
|
75−80
+28.8%
|
Far Cry 5 | 24
+0%
|
24
+0%
|
Forza Horizon 4 | 39
−17.9%
|
46
+17.9%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−40%
|
21−24
+40%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27
−29.6%
|
35
+29.6%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 23
−26.1%
|
29
+26.1%
|
นี่คือวิธีที่ RX 570 และ RX 590 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 590 เร็วกว่า 24% ในความละเอียด 1080p
- RX 590 เร็วกว่า 33% ในความละเอียด 1440p
- RX 590 เร็วกว่า 30% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 570 เร็วกว่า 71%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 590 เร็วกว่า 126%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 570 เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RX 590 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 17.89 | 24.09 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 15 พฤศจิกายน 2018 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 175 วัตต์ |
RX 570 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 45.8%
ในทางกลับกัน RX 590 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 34.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 16.7%
Radeon RX 590 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 570 ในการทดสอบประสิทธิภาพ