GeForce RTX 4060 เทียบกับ Radeon Pro W6800
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro W6800 กับ GeForce RTX 4060 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 55 | 58 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 2 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 25.79 | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.15 | 30.66 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 21 | AD107 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 8 มิถุนายน 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 18 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,249 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4060 มีความคุ้มค่ามากกว่า Pro W6800 อยู่ 288%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2075 MHz | 1830 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2320 MHz | 2460 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 26,800 million | 18,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 115 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 556.8 | 236.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 17.82 TFLOPS | 15.11 TFLOPS |
ROPs | 96 | 48 |
TMUs | 240 | 96 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 96 |
Ray Tracing Cores | 60 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 267 mm | 240 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 32 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2125 MHz |
512.0 จีบี/s | 272.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 6x mini-DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 137
+1.5%
| 135
−1.5%
|
1440p | 116
+75.8%
| 66
−75.8%
|
4K | 84
+121%
| 38
−121%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 16.42
−641%
| 2.21
+641%
|
1440p | 19.39
−328%
| 4.53
+328%
|
4K | 26.77
−240%
| 7.87
+240%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 140−150
−43.9%
|
213
+43.9%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
−16.4%
|
135
+16.4%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−20.9%
|
139
+20.9%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 140−150
−7.4%
|
159
+7.4%
|
Battlefield 5 | 140−150
+0%
|
140−150
+0%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
+6.4%
|
109
−6.4%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
+7.5%
|
107
−7.5%
|
Far Cry 5 | 70
−164%
|
185
+164%
|
Fortnite | 200−210
+0.5%
|
200−210
−0.5%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
+0.5%
|
180−190
−0.5%
|
Forza Horizon 5 | 140−150
−68.8%
|
238
+68.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
+0.4%
|
260−270
−0.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 140−150
+57.4%
|
94
−57.4%
|
Battlefield 5 | 140−150
+0%
|
140−150
+0%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
+27.5%
|
91
−27.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
+27.8%
|
90
−27.8%
|
Dota 2 | 99
+4.2%
|
95−100
−4.2%
|
Far Cry 5 | 65
−160%
|
169
+160%
|
Fortnite | 200−210
+0.5%
|
200−210
−0.5%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
+0.5%
|
180−190
−0.5%
|
Forza Horizon 5 | 140−150
−56.7%
|
221
+56.7%
|
Grand Theft Auto V | 121
−28.1%
|
155
+28.1%
|
Metro Exodus | 160
+49.5%
|
107
−49.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 199
−8%
|
215
+8%
|
Valorant | 260−270
+0.4%
|
260−270
−0.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 140−150
+0%
|
140−150
+0%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
+52.6%
|
76
−52.6%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
+43.8%
|
80
−43.8%
|
Dota 2 | 86
+1.2%
|
85−90
−1.2%
|
Far Cry 5 | 62
−156%
|
159
+156%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
+0.5%
|
180−190
−0.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 157
+41.4%
|
111
−41.4%
|
Valorant | 260−270
+0.4%
|
260−270
−0.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 200−210
+0.5%
|
200−210
−0.5%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
+0%
|
35−40
+0%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
+0.3%
|
300−350
−0.3%
|
Grand Theft Auto V | 88
−2.3%
|
90
+2.3%
|
Metro Exodus | 171
+171%
|
63
−171%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 290−300
+0.3%
|
290−300
−0.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
+0%
|
110−120
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 60−65
+25%
|
48
−25%
|
Far Cry 5 | 64
−70.3%
|
109
+70.3%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
+0%
|
140−150
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 95−100
+21.3%
|
80
−21.3%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 130−140
+0.8%
|
130−140
−0.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 40−45
+0%
|
40−45
+0%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
+0%
|
24−27
+0%
|
Grand Theft Auto V | 125
+40.4%
|
89
−40.4%
|
Metro Exodus | 55
+44.7%
|
38
−44.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 99
+47.8%
|
67
−47.8%
|
Valorant | 280−290
+0.4%
|
280−290
−0.4%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
+178%
|
9
−178%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+40%
|
20
−40%
|
Dota 2 | 94
+4.4%
|
90−95
−4.4%
|
Far Cry 5 | 60
+11.1%
|
54
−11.1%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 65−70
+1.5%
|
65−70
−1.5%
|
นี่คือวิธีที่ Pro W6800 และ RTX 4060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Pro W6800 เร็วกว่า 1% ในความละเอียด 1080p
- Pro W6800 เร็วกว่า 76% ในความละเอียด 1440p
- Pro W6800 เร็วกว่า 121% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ Pro W6800 เร็วกว่า 178%
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RTX 4060 เร็วกว่า 164%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Pro W6800 เหนือกว่าใน 32การทดสอบ (52%)
- RTX 4060 เหนือกว่าใน 13การทดสอบ (21%)
- เสมอกันใน 16การทดสอบ (26%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 51.47 | 51.29 |
ความใหม่ล่าสุด | 8 มิถุนายน 2021 | 18 พฤษภาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 32 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 115 วัตต์ |
Pro W6800 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 0.4% และ
ในทางกลับกัน RTX 4060 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 117.4%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง Radeon Pro W6800 และ GeForce RTX 4060 ได้อย่างชัดเจน
โปรดทราบว่า Radeon Pro W6800 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ GeForce RTX 4060 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป