GeForce MX150 เทียบกับ Radeon Pro 560X
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro 560X กับ GeForce MX150 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
Pro 560X มีประสิทธิภาพดีกว่า MX150 อย่างน่าประทับใจ 62% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 471 | 600 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.74 | 40.42 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Pascal (2016−2021) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 21 | GP108 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 16 กรกฎาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 17 พฤษภาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1004 MHz | 937 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 1038 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,000 million | 1,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 10 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 64.26 | 24.91 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.056 TFLOPS | 0.7972 TFLOPS |
ROPs | 16 | 16 |
TMUs | 64 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x8 | PCIe 3.0 x16 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1270 MHz | 1253 MHz |
81.28 จีบี/s | 40.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | - | 6.1 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 41
+46.4%
| 28
−46.4%
|
1440p | 43
+43.3%
| 30
−43.3%
|
4K | 17
−11.8%
| 19
+11.8%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 21−24
+69.2%
|
12−14
−69.2%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+41.7%
|
12−14
−41.7%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+63.6%
|
10−12
−63.6%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 21−24
+69.2%
|
12−14
−69.2%
|
Battlefield 5 | 43
+10.3%
|
39
−10.3%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+41.7%
|
12−14
−41.7%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+63.6%
|
11
−63.6%
|
Far Cry 5 | 37
+118%
|
17
−118%
|
Fortnite | 66
+11.9%
|
59
−11.9%
|
Forza Horizon 4 | 53
+112%
|
25
−112%
|
Forza Horizon 5 | 21−24
+91.7%
|
12−14
−91.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
+23.1%
|
26
−23.1%
|
Valorant | 85−90
−13.6%
|
100
+13.6%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 21−24
+69.2%
|
12−14
−69.2%
|
Battlefield 5 | 36
+12.5%
|
32
−12.5%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+41.7%
|
12−14
−41.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 86
−1.2%
|
87
+1.2%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+157%
|
7
−157%
|
Dota 2 | 71
+4.4%
|
68
−4.4%
|
Far Cry 5 | 33
+106%
|
16
−106%
|
Fortnite | 40
+17.6%
|
34
−17.6%
|
Forza Horizon 4 | 50
+138%
|
21
−138%
|
Forza Horizon 5 | 21−24
+91.7%
|
12−14
−91.7%
|
Grand Theft Auto V | 33
+26.9%
|
26
−26.9%
|
Metro Exodus | 19
+217%
|
6
−217%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40
+81.8%
|
22
−81.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 34
+78.9%
|
19
−78.9%
|
Valorant | 85−90
−13.6%
|
100
+13.6%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 33
+26.9%
|
26
−26.9%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+41.7%
|
12−14
−41.7%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+63.6%
|
10−12
−63.6%
|
Dota 2 | 69
+11.3%
|
62
−11.3%
|
Far Cry 5 | 31
+121%
|
14
−121%
|
Forza Horizon 4 | 36
+157%
|
14
−157%
|
Forza Horizon 5 | 21−24
+91.7%
|
12−14
−91.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
+113%
|
15
−113%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20
+81.8%
|
11
−81.8%
|
Valorant | 26
−150%
|
65−70
+150%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 32
+33.3%
|
24
−33.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 57
+3.6%
|
55
−3.6%
|
Grand Theft Auto V | 12−14
+100%
|
6−7
−100%
|
Metro Exodus | 11
+175%
|
4−5
−175%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
+7%
|
43
−7%
|
Valorant | 100−110
+53%
|
66
−53%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21−24
+200%
|
7−8
−200%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
+50%
|
8−9
−50%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
+75%
|
4−5
−75%
|
Far Cry 5 | 18−20
+72.7%
|
10−12
−72.7%
|
Forza Horizon 4 | 21−24
+61.5%
|
12−14
−61.5%
|
Forza Horizon 5 | 16−18
+77.8%
|
9−10
−77.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
+55.6%
|
9−10
−55.6%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 18−20
+72.7%
|
10−12
−72.7%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 7−8
+40%
|
5−6
−40%
|
Counter-Strike 2 | 3−4 | 0−1 |
Counter-Strike: Global Offensive | 30
+0%
|
30
+0%
|
Grand Theft Auto V | 13
−30.8%
|
16−18
+30.8%
|
Metro Exodus | 7 | 0−1 |
The Witcher 3: Wild Hunt | 9−10
+350%
|
2−3
−350%
|
Valorant | 45−50
+42.4%
|
33
−42.4%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 10−11
+233%
|
3−4
−233%
|
Counter-Strike 2 | 3−4 | 0−1 |
Cyberpunk 2077 | 3−4
+50%
|
2−3
−50%
|
Dota 2 | 30−35
+37.5%
|
24
−37.5%
|
Far Cry 5 | 10
+66.7%
|
6−7
−66.7%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
+87.5%
|
8−9
−87.5%
|
Forza Horizon 5 | 6−7
+100%
|
3−4
−100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 8−9
+33.3%
|
6−7
−33.3%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 8−9
+60%
|
5−6
−60%
|
นี่คือวิธีที่ Pro 560X และ GeForce MX150 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Pro 560X เร็วกว่า 46% ในความละเอียด 1080p
- Pro 560X เร็วกว่า 43% ในความละเอียด 1440p
- GeForce MX150 เร็วกว่า 12% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Pro 560X เร็วกว่า 350%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GeForce MX150 เร็วกว่า 150%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Pro 560X เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (91%)
- GeForce MX150 เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (8%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 9.54 | 5.88 |
ความใหม่ล่าสุด | 16 กรกฎาคม 2018 | 17 พฤษภาคม 2017 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 10 วัตต์ |
Pro 560X มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 62.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี
ในทางกลับกัน GeForce MX150 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 650%
Radeon Pro 560X เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX150 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro 560X เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ GeForce MX150 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพาเช่นกัน