GeForce RTX 5080 เทียบกับ Radeon 780M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon 780M กับ GeForce RTX 5080 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 5080 มีประสิทธิภาพดีกว่า 780M อย่างมหาศาลถึง 415% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 338 | 4 |
จัดอันดับตามความนิยม | 59 | 100 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 30.30 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 82.87 | 17.79 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Hawx Point | GB203 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 6 ธันวาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 30 มกราคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 768 | 10752 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 800 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2700 MHz | 2617 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 25,390 million | 45,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 4 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 15 Watt | 360 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 129.6 | 879.3 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 8.294 TFLOPS | 56.28 TFLOPS |
ROPs | 32 | 112 |
TMUs | 48 | 336 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 336 |
Ray Tracing Cores | 12 | 84 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 304 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | System Shared | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | System Shared | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | System Shared | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | System Shared | 1875 MHz |
ไม่มีข้อมูล | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | - | 10.1 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 35
−480%
| 203
+480%
|
1440p | 22
−627%
| 160
+627%
|
4K | 13
−738%
| 109
+738%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 4.92 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 6.24 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 9.17 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 119
−178%
|
300−350
+178%
|
Cyberpunk 2077 | 39
−477%
|
220−230
+477%
|
Dead Island 2 | 52
−492%
|
300−350
+492%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 70−75
−174%
|
190−200
+174%
|
Counter-Strike 2 | 82
−304%
|
300−350
+304%
|
Cyberpunk 2077 | 31
−626%
|
220−230
+626%
|
Dead Island 2 | 45
−584%
|
300−350
+584%
|
Far Cry 5 | 45
−424%
|
230−240
+424%
|
Fortnite | 90−95
−225%
|
300−350
+225%
|
Forza Horizon 4 | 70−75
−391%
|
300−350
+391%
|
Forza Horizon 5 | 65
−274%
|
240−250
+274%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
−175%
|
170−180
+175%
|
Valorant | 130−140
−353%
|
600−650
+353%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 70−75
−174%
|
190−200
+174%
|
Counter-Strike 2 | 39
−749%
|
300−350
+749%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
−28.7%
|
270−280
+28.7%
|
Cyberpunk 2077 | 24
−838%
|
220−230
+838%
|
Dead Island 2 | 31
−894%
|
300−350
+894%
|
Dota 2 | 100−110
−390%
|
500−550
+390%
|
Far Cry 5 | 41
−476%
|
230−240
+476%
|
Fortnite | 90−95
−225%
|
300−350
+225%
|
Forza Horizon 4 | 70−75
−391%
|
300−350
+391%
|
Forza Horizon 5 | 60
−305%
|
240−250
+305%
|
Grand Theft Auto V | 45
−287%
|
170−180
+287%
|
Metro Exodus | 29
−124%
|
65
+124%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
−175%
|
170−180
+175%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 46
−765%
|
350−400
+765%
|
Valorant | 130−140
−353%
|
600−650
+353%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70−75
−174%
|
190−200
+174%
|
Cyberpunk 2077 | 23
−878%
|
220−230
+878%
|
Dead Island 2 | 27
−1041%
|
300−350
+1041%
|
Dota 2 | 100−110
−390%
|
500−550
+390%
|
Far Cry 5 | 39
−505%
|
230−240
+505%
|
Forza Horizon 4 | 70−75
−391%
|
300−350
+391%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60−65
−175%
|
170−180
+175%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 29
−872%
|
282
+872%
|
Valorant | 130−140
−353%
|
600−650
+353%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 90−95
−225%
|
300−350
+225%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27
−967%
|
280−290
+967%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
−313%
|
500−550
+313%
|
Grand Theft Auto V | 18
−833%
|
160−170
+833%
|
Metro Exodus | 21−24
−686%
|
173
+686%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−8%
|
170−180
+8%
|
Valorant | 160−170
−190%
|
450−500
+190%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
−308%
|
190−200
+308%
|
Cyberpunk 2077 | 16
−788%
|
140−150
+788%
|
Dead Island 2 | 30−33
−730%
|
240−250
+730%
|
Far Cry 5 | 27
−744%
|
220−230
+744%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−629%
|
300−350
+629%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20
−1080%
|
236
+1080%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−287%
|
150−160
+287%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 6
−817%
|
55
+817%
|
Dead Island 2 | 16−18
−400%
|
85−90
+400%
|
Grand Theft Auto V | 21
−790%
|
180−190
+790%
|
Metro Exodus | 12−14
−846%
|
120−130
+846%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 15
−1473%
|
236
+1473%
|
Valorant | 95−100
−249%
|
300−350
+249%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 24−27
−444%
|
130−140
+444%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−864%
|
130−140
+864%
|
Cyberpunk 2077 | 6
−1067%
|
70−75
+1067%
|
Dead Island 2 | 16−18
−635%
|
120−130
+635%
|
Dota 2 | 60−65
−400%
|
300−310
+400%
|
Far Cry 5 | 12
−1308%
|
160−170
+1308%
|
Forza Horizon 4 | 30−33
−917%
|
300−350
+917%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 16−18
−465%
|
95−100
+465%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 16−18
−365%
|
75−80
+365%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon 780M และ RTX 5080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5080 เร็วกว่า 480% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5080 เร็วกว่า 627% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5080 เร็วกว่า 738% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5080 เร็วกว่า 1473%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 5080 เหนือกว่า Radeon 780M ในการทดสอบทั้ง 62 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 17.56 | 90.47 |
ความใหม่ล่าสุด | 6 ธันวาคม 2023 | 30 มกราคม 2025 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 4 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 15 วัตต์ | 360 วัตต์ |
Radeon 780M มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 25%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 2300%
ในทางกลับกัน RTX 5080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 415.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี
GeForce RTX 5080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 780M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon 780M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 5080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป