GeForce RTX 4080 SUPER เทียบกับ Radeon 660M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon 660M กับ GeForce RTX 4080 SUPER รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า 660M อย่างมหาศาลถึง 1195% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 568 | 6 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 72 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 38.49 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.85 | 19.18 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Rembrandt+ | AD103 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 384 | 10240 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1900 MHz | 2550 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,100 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 40 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 45.60 | 816.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.459 TFLOPS | 52.22 TFLOPS |
ROPs | 16 | 112 |
TMUs | 24 | 320 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 320 |
Ray Tracing Cores | 6 | 80 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 310 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | System Shared | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | System Shared | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | System Shared | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | System Shared | 1438 MHz |
ไม่มีข้อมูล | 736.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 25
−936%
| 259
+936%
|
1440p | 12−14
−1400%
| 180
+1400%
|
4K | 9−10
−1200%
| 117
+1200%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.86 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 5.55 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 8.54 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 29
−934%
|
300
+934%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−1792%
|
246
+1792%
|
Cyberpunk 2077 | 24
−938%
|
249
+938%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 23
−1117%
|
280
+1117%
|
Battlefield 5 | 27−30
−604%
|
190−200
+604%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−1746%
|
240
+1746%
|
Cyberpunk 2077 | 20
−1130%
|
246
+1130%
|
Far Cry 5 | 30
−700%
|
240
+700%
|
Fortnite | 35−40
−674%
|
300−350
+674%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−1086%
|
344
+1086%
|
Forza Horizon 5 | 30
−927%
|
308
+927%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 24−27
−638%
|
170−180
+638%
|
Valorant | 70−75
−663%
|
500−550
+663%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 13
−1569%
|
217
+1569%
|
Battlefield 5 | 27−30
−604%
|
190−200
+604%
|
Counter-Strike 2 | 11
−1845%
|
214
+1845%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 100−110
−162%
|
270−280
+162%
|
Cyberpunk 2077 | 14
−1600%
|
238
+1600%
|
Dota 2 | 56
−1150%
|
700−750
+1150%
|
Far Cry 5 | 26
−773%
|
227
+773%
|
Fortnite | 35−40
−674%
|
300−350
+674%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−1079%
|
342
+1079%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−1800%
|
285
+1800%
|
Grand Theft Auto V | 25
−616%
|
179
+616%
|
Metro Exodus | 15
−1413%
|
227
+1413%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 24−27
−638%
|
170−180
+638%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 26
−2004%
|
547
+2004%
|
Valorant | 70−75
−663%
|
500−550
+663%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 27−30
−604%
|
190−200
+604%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−1362%
|
190
+1362%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−1431%
|
199
+1431%
|
Dota 2 | 48
−1150%
|
600−650
+1150%
|
Far Cry 5 | 25
−748%
|
212
+748%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−1010%
|
322
+1010%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−1167%
|
190−200
+1167%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 24−27
−638%
|
170−180
+638%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 15
−1653%
|
263
+1653%
|
Valorant | 70−75
−663%
|
500−550
+663%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−674%
|
300−350
+674%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 50−55
−932%
|
500−550
+932%
|
Grand Theft Auto V | 8−9
−2013%
|
169
+2013%
|
Metro Exodus | 6−7
−2600%
|
162
+2600%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−361%
|
170−180
+361%
|
Valorant | 70−75
−564%
|
450−500
+564%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 10−12
−1682%
|
190−200
+1682%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
−1122%
|
110−120
+1122%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−2460%
|
128
+2460%
|
Far Cry 5 | 12−14
−1500%
|
208
+1500%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
−1940%
|
306
+1940%
|
Forza Horizon 5 | 10−12
−1173%
|
140−150
+1173%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 10−11
−2110%
|
221
+2110%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 12−14
−1062%
|
150−160
+1062%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 5−6
−1660%
|
85−90
+1660%
|
Counter-Strike 2 | 1−2
−11600%
|
117
+11600%
|
Grand Theft Auto V | 18−20
−939%
|
187
+939%
|
Metro Exodus | 1−2
−10500%
|
106
+10500%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 4−5
−5000%
|
204
+5000%
|
Valorant | 30−35
−906%
|
300−350
+906%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 5−6
−2620%
|
130−140
+2620%
|
Counter-Strike 2 | 1−2
−2700%
|
28
+2700%
|
Cyberpunk 2077 | 2−3
−2950%
|
61
+2950%
|
Dota 2 | 21−24
−1161%
|
290−300
+1161%
|
Far Cry 5 | 7−8
−1971%
|
145
+1971%
|
Forza Horizon 4 | 10−11
−2950%
|
305
+2950%
|
Forza Horizon 5 | 4−5
−1150%
|
50−55
+1150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 6−7
−1500%
|
95−100
+1500%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 6−7
−1217%
|
75−80
+1217%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 120−130
+0%
|
120−130
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon 660M และ RTX 4080 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 936% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 1400% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 1200% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 11600%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 SUPER เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 6.80 | 88.06 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 มกราคม 2023 | 8 มกราคม 2024 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 40 วัตต์ | 320 วัตต์ |
Radeon 660M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 700%
ในทางกลับกัน RTX 4080 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 1195% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
GeForce RTX 4080 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 660M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon 660M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4080 SUPER เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป