GeForce GTX 1660 Ti Max-Q เทียบกับ Radeon 520
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon 520 และ GeForce GTX 1660 Ti Max-Q โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
GTX 1660 Ti Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า 520 อย่างมหาศาลถึง 1022% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 890 | 254 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 69.02 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 2.80 | 26.21 |
สถาปัตยกรรม | GCN 1.0 (2011−2020) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Banks | TU116 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $229 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 320 | 1536 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1030 MHz | 1140 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 1335 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 690 million | 6,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 Watt | 60 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 20.60 | 128.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 0.6592 TFLOPS | 4.101 TFLOPS |
ROPs | 8 | 48 |
TMUs | 20 | 96 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x8 | PCIe 3.0 x16 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 6 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 64 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1125 MHz | 1500 MHz |
36 จีบี/s | 288.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (11_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | - | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 15
−427%
| 79
+427%
|
4K | 2−3
−1550%
| 33
+1550%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.90 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 6.94 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 5−6
−1060%
|
55−60
+1060%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−413%
|
40−45
+413%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−1050%
|
45−50
+1050%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 5−6
−1060%
|
55−60
+1060%
|
Battlefield 5 | 5−6
−1560%
|
83
+1560%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−413%
|
40−45
+413%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−1050%
|
45−50
+1050%
|
Far Cry 5 | 2−3
−3350%
|
69
+3350%
|
Fortnite | 8−9
−1050%
|
92
+1050%
|
Forza Horizon 4 | 10−11
−760%
|
85−90
+760%
|
Forza Horizon 5 | 2−3
−2950%
|
60−65
+2950%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 10−12
−655%
|
80−85
+655%
|
Valorant | 35−40
−295%
|
150−160
+295%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 5−6
−1060%
|
55−60
+1060%
|
Battlefield 5 | 5−6
−1460%
|
78
+1460%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−413%
|
40−45
+413%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 35−40
−528%
|
240−250
+528%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−1050%
|
45−50
+1050%
|
Dota 2 | 19
−395%
|
94
+395%
|
Far Cry 5 | 2−3
−3200%
|
66
+3200%
|
Fortnite | 8−9
−1025%
|
90
+1025%
|
Forza Horizon 4 | 10−11
−760%
|
85−90
+760%
|
Forza Horizon 5 | 2−3
−2950%
|
60−65
+2950%
|
Grand Theft Auto V | 4−5
−2075%
|
87
+2075%
|
Metro Exodus | 3−4
−1500%
|
48
+1500%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 10−12
−655%
|
80−85
+655%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 10
−820%
|
92
+820%
|
Valorant | 35−40
−295%
|
150−160
+295%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 5−6
−1360%
|
73
+1360%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−413%
|
40−45
+413%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−1050%
|
45−50
+1050%
|
Dota 2 | 18
−378%
|
86
+378%
|
Far Cry 5 | 2−3
−3000%
|
62
+3000%
|
Forza Horizon 4 | 10−11
−760%
|
85−90
+760%
|
Forza Horizon 5 | 2−3
−2950%
|
60−65
+2950%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 10−12
−655%
|
80−85
+655%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 6
−750%
|
51
+750%
|
Valorant | 35−40
−138%
|
93
+138%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 8−9
−888%
|
79
+888%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 12−14
−1077%
|
150−160
+1077%
|
Grand Theft Auto V | 0−1 | 35−40 |
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 14−16
−1143%
|
170−180
+1143%
|
Valorant | 14−16
−1279%
|
190−200
+1279%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 2−3
−1000%
|
21−24
+1000%
|
Cyberpunk 2077 | 1−2
−2000%
|
21−24
+2000%
|
Far Cry 5 | 3−4
−1533%
|
45−50
+1533%
|
Forza Horizon 4 | 4−5
−1275%
|
55−60
+1275%
|
Forza Horizon 5 | 1−2
−3800%
|
35−40
+3800%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 3−4
−1067%
|
35−40
+1067%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 3−4
−1567%
|
50−55
+1567%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 2−3
−750%
|
16−18
+750%
|
Grand Theft Auto V | 14−16
−160%
|
35−40
+160%
|
Valorant | 10−11
−1140%
|
120−130
+1140%
|
4K
Ultra Preset
Cyberpunk 2077 | 0−1 | 9−10 |
Dota 2 | 4−5
−1700%
|
70−75
+1700%
|
Far Cry 5 | 2−3
−1400%
|
30
+1400%
|
Forza Horizon 4 | 0−1 | 35−40 |
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 3−4
−633%
|
21−24
+633%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 3−4
−667%
|
21−24
+667%
|
1440p
High Preset
Metro Exodus | 27−30
+0%
|
27−30
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+0%
|
60−65
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 10−11
+0%
|
10−11
+0%
|
Metro Exodus | 18−20
+0%
|
18−20
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 31
+0%
|
31
+0%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 38
+0%
|
38
+0%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
+0%
|
10−11
+0%
|
Forza Horizon 5 | 20−22
+0%
|
20−22
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Radeon 520 และ GTX 1660 Ti Max-Q แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti Max-Q เร็วกว่า 427% ในความละเอียด 1080p
- GTX 1660 Ti Max-Q เร็วกว่า 1550% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 5 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 1660 Ti Max-Q เร็วกว่า 3800%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti Max-Q เหนือกว่าใน 56การทดสอบ (88%)
- เสมอกันใน 8การทดสอบ (13%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 2.04 | 22.88 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 23 เมษายน 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 6 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 วัตต์ | 60 วัตต์ |
Radeon 520 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 20%
ในทางกลับกัน GTX 1660 Ti Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 1021.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%
GeForce GTX 1660 Ti Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 520 ในการทดสอบประสิทธิภาพ