GeForce RTX 5060 เทียบกับ RTX 6000 Ada Generation
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ RTX 6000 Ada Generation กับ GeForce RTX 5060 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 6000 Ada Generation มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 5060 อย่างมาก 26% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 20 | 52 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 7.91 | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 16.94 | 27.91 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | AD102 | GB206 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 ธันวาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 19 พฤษภาคม 2025 (เร็ว ๆ นี้) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $6,799 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 6000 Ada Generation อยู่ 1164%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 18176 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 915 MHz | 2280 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2505 MHz | 2497 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 76,300 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 Watt | 145 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 1,423 | 299.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 91.06 TFLOPS | 19.18 TFLOPS |
ROPs | 192 | 48 |
TMUs | 568 | 120 |
Tensor Cores | 568 | 120 |
Ray Tracing Cores | 142 | 30 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | 267 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 48 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2500 MHz | 1750 MHz |
960.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 4x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | 8.9 | 12.0 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 183
+18.8%
| 154
−18.8%
|
1440p | 160
+105%
| 78
−105%
|
4K | 109
+110%
| 52
−110%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 37.15
−1814%
| 1.94
+1814%
|
1440p | 42.49
−1009%
| 3.83
+1009%
|
4K | 62.38
−985%
| 5.75
+985%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 300−350
+12.7%
|
280−290
−12.7%
|
Cyberpunk 2077 | 170−180
+29.1%
|
130−140
−29.1%
|
Dead Island 2 | 290−300
+17.6%
|
250−260
−17.6%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 180−190
+13.2%
|
150−160
−13.2%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+12.7%
|
280−290
−12.7%
|
Cyberpunk 2077 | 170−180
+29.1%
|
130−140
−29.1%
|
Dead Island 2 | 290−300
+17.6%
|
250−260
−17.6%
|
Far Cry 5 | 130
−92.3%
|
250
+92.3%
|
Fortnite | 300−350
+23.8%
|
240−250
−23.8%
|
Forza Horizon 4 | 270−280
+30.5%
|
210−220
−30.5%
|
Forza Horizon 5 | 200−210
+21.8%
|
160−170
−21.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 350−400
+32.4%
|
290−300
−32.4%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 180−190
+13.2%
|
150−160
−13.2%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+12.7%
|
280−290
−12.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 170−180
+29.1%
|
130−140
−29.1%
|
Dead Island 2 | 290−300
+17.6%
|
250−260
−17.6%
|
Far Cry 5 | 126
−81%
|
228
+81%
|
Fortnite | 300−350
+23.8%
|
240−250
−23.8%
|
Forza Horizon 4 | 270−280
+30.5%
|
210−220
−30.5%
|
Forza Horizon 5 | 200−210
+21.8%
|
160−170
−21.8%
|
Grand Theft Auto V | 170−180
+9%
|
150−160
−9%
|
Metro Exodus | 114
−20.2%
|
130−140
+20.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 489
+71%
|
286
−71%
|
Valorant | 350−400
+32.4%
|
290−300
−32.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 180−190
+13.2%
|
150−160
−13.2%
|
Cyberpunk 2077 | 170−180
+29.1%
|
130−140
−29.1%
|
Dead Island 2 | 290−300
+17.6%
|
250−260
−17.6%
|
Far Cry 5 | 118
−80.5%
|
213
+80.5%
|
Forza Horizon 4 | 270−280
+30.5%
|
210−220
−30.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 260
+81.8%
|
143
−81.8%
|
Valorant | 350−400
+32.4%
|
290−300
−32.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+23.8%
|
240−250
−23.8%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 210−220
+35.9%
|
150−160
−35.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+29.6%
|
350−400
−29.6%
|
Grand Theft Auto V | 140−150
+24.1%
|
110−120
−24.1%
|
Metro Exodus | 95
+9.2%
|
85−90
−9.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+42.2%
|
300−350
−42.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 170−180
+33.1%
|
130−140
−33.1%
|
Cyberpunk 2077 | 100−110
+40.3%
|
70−75
−40.3%
|
Dead Island 2 | 180−190
+37.4%
|
130−140
−37.4%
|
Far Cry 5 | 118
−22.9%
|
145
+22.9%
|
Forza Horizon 4 | 230−240
+38.2%
|
170−180
−38.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 219
+107%
|
106
−107%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 40
−77.5%
|
70−75
+77.5%
|
Dead Island 2 | 80−85
+36.7%
|
60−65
−36.7%
|
Grand Theft Auto V | 160−170
+27.5%
|
130−140
−27.5%
|
Metro Exodus | 90
+63.6%
|
55−60
−63.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 184
+102%
|
91
−102%
|
Valorant | 300−350
+6.8%
|
300−350
−6.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+40.9%
|
90−95
−40.9%
|
Counter-Strike 2 | 95−100
+35.2%
|
70−75
−35.2%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+44.1%
|
30−35
−44.1%
|
Dead Island 2 | 80−85
+43.9%
|
55−60
−43.9%
|
Far Cry 5 | 115
+53.3%
|
75
−53.3%
|
Forza Horizon 4 | 190−200
+56.5%
|
120−130
−56.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 6000 Ada Generation และ RTX 5060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 19% ในความละเอียด 1080p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 105% ในความละเอียด 1440p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 110% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 107%
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RTX 5060 เร็วกว่า 92%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 6000 Ada Generation เหนือกว่าใน 48การทดสอบ (77%)
- RTX 5060 เหนือกว่าใน 6การทดสอบ (10%)
- เสมอกันใน 8การทดสอบ (13%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 71.76 | 56.86 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 ธันวาคม 2022 | 19 พฤษภาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 48 จีบี | 8 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 วัตต์ | 145 วัตต์ |
RTX 6000 Ada Generation มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 26.2% และ
ในทางกลับกัน RTX 5060 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 106.9%
RTX 6000 Ada Generation เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 5060 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า RTX 6000 Ada Generation เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ GeForce RTX 5060 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป