Radeon RX 8050S เทียบกับ GeForce RTX 5080
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 5080 กับ Radeon RX 8050S รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 5080 มีประสิทธิภาพดีกว่า 8050S อย่างมหาศาลถึง 138% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 5 | 150 |
| จัดอันดับตามความนิยม | 81 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
| ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 49.03 | ไม่มีข้อมูล |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.33 | ไม่มีข้อมูล |
| สถาปัตยกรรม | Blackwell 2.0 (2025−2026) | ไม่มีข้อมูล |
| ชื่อรหัส GPU | GB203 | ไม่มีข้อมูล |
| ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 30 มกราคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) | 6 มกราคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
| ราคาเปิดตัว (MSRP) | $999 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 10752 | 32 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2295 MHz | ไม่มีข้อมูล |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2617 MHz | 2800 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 45,600 million | ไม่มีข้อมูล |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | ไม่มีข้อมูล |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 360 Watt | ไม่มีข้อมูล |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 879.3 | ไม่มีข้อมูล |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 56.28 TFLOPS | ไม่มีข้อมูล |
| ROPs | 112 | ไม่มีข้อมูล |
| TMUs | 336 | ไม่มีข้อมูล |
| Tensor Cores | 336 | ไม่มีข้อมูล |
| Ray Tracing Cores | 84 | ไม่มีข้อมูล |
| L1 Cache | 10.5 เอ็มบี | ไม่มีข้อมูล |
| L2 Cache | 64 เอ็มบี | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 5.0 x16 | ไม่มีข้อมูล |
| ความยาว | 304 mm | ไม่มีข้อมูล |
| ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | GDDR7 | ไม่มีข้อมูล |
| จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | ไม่มีข้อมูล |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | ไม่มีข้อมูล |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1875 MHz | ไม่มีข้อมูล |
| 960.0 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
| Resizable BAR | + | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b | ไม่มีข้อมูล |
| HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 Ultimate (12_2) | ไม่มีข้อมูล |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | ไม่มีข้อมูล |
| OpenGL | 4.6 | ไม่มีข้อมูล |
| OpenCL | 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
| Vulkan | 1.4 | - |
| CUDA | 12.0 | - |
| DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 204
+117%
| 94
−117%
|
| 1440p | 157
+142%
| 65−70
−142%
|
| 4K | 107
+168%
| 40−45
−168%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
| 1080p | 4.90 | ไม่มีข้อมูล |
| 1440p | 6.36 | ไม่มีข้อมูล |
| 4K | 9.34 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 300−350
+63.5%
|
200−210
−63.5%
|
| Cyberpunk 2077 | 220−230
+168%
|
80−85
−168%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 190−200
+53.9%
|
120−130
−53.9%
|
| Counter-Strike 2 | 300−350
+63.5%
|
200−210
−63.5%
|
| Cyberpunk 2077 | 220−230
+168%
|
80−85
−168%
|
| Escape from Tarkov | 120−130
+1.7%
|
110−120
−1.7%
|
| Far Cry 5 | 230−240
+137%
|
100
−137%
|
| Fortnite | 300−350
+88.8%
|
160−170
−88.8%
|
| Forza Horizon 4 | 300−350
+144%
|
140−150
−144%
|
| Forza Horizon 5 | 240−250
+110%
|
110−120
−110%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+20%
|
140−150
−20%
|
| Valorant | 600−650
+179%
|
210−220
−179%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 190−200
+53.9%
|
120−130
−53.9%
|
| Counter-Strike 2 | 300−350
+63.5%
|
200−210
−63.5%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
| Cyberpunk 2077 | 220−230
+168%
|
80−85
−168%
|
| Escape from Tarkov | 120−130
+1.7%
|
110−120
−1.7%
|
| Far Cry 5 | 230−240
+147%
|
96
−147%
|
| Fortnite | 300−350
+88.8%
|
160−170
−88.8%
|
| Forza Horizon 4 | 300−350
+144%
|
140−150
−144%
|
| Forza Horizon 5 | 240−250
+110%
|
110−120
−110%
|
| Grand Theft Auto V | 170−180
+47.5%
|
118
−47.5%
|
| Metro Exodus | 65
−32.3%
|
85−90
+32.3%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+20%
|
140−150
−20%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 400−450
+160%
|
156
−160%
|
| Valorant | 600−650
+179%
|
210−220
−179%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 190−200
+53.9%
|
120−130
−53.9%
|
| Cyberpunk 2077 | 220−230
+168%
|
80−85
−168%
|
| Escape from Tarkov | 120−130
+1.7%
|
110−120
−1.7%
|
| Far Cry 5 | 230−240
+179%
|
85
−179%
|
| Forza Horizon 4 | 300−350
+144%
|
140−150
−144%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+20%
|
140−150
−20%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 279
+203%
|
92
−203%
|
| Valorant | 600−650
+142%
|
250−260
−142%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 300−350
+88.8%
|
160−170
−88.8%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 290−300
+224%
|
90−95
−224%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+102%
|
250−260
−102%
|
| Grand Theft Auto V | 160−170
+124%
|
75−80
−124%
|
| Metro Exodus | 173
+226%
|
50−55
−226%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+150%
|
70−75
−150%
|
| Valorant | 450−500
+94%
|
250−260
−94%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 190−200
+106%
|
95−100
−106%
|
| Cyberpunk 2077 | 140−150
+238%
|
40−45
−238%
|
| Escape from Tarkov | 120−130
+37.9%
|
85−90
−37.9%
|
| Far Cry 5 | 220−230
+160%
|
85−90
−160%
|
| Forza Horizon 4 | 300−350
+200%
|
100−110
−200%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 232
+246%
|
65−70
−246%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 150−160
+58.9%
|
95−100
−58.9%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 55
+34.1%
|
40−45
−34.1%
|
| Grand Theft Auto V | 180−190
+140%
|
75−80
−140%
|
| Metro Exodus | 120−130
+279%
|
30−35
−279%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 232
+307%
|
55−60
−307%
|
| Valorant | 300−350
+47.5%
|
220−230
−47.5%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 130−140
+134%
|
55−60
−134%
|
| Counter-Strike 2 | 130−140
+147%
|
55−60
−147%
|
| Cyberpunk 2077 | 70−75
+268%
|
18−20
−268%
|
| Escape from Tarkov | 80−85
+86.4%
|
40−45
−86.4%
|
| Far Cry 5 | 170−180
+264%
|
45−50
−264%
|
| Forza Horizon 4 | 300−350
+349%
|
65−70
−349%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+104%
|
45−50
−104%
|
4K
Epic
| Fortnite | 75−80
+71.7%
|
45−50
−71.7%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 5080 และ RX 8050S แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5080 เร็วกว่า 117% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5080 เร็วกว่า 142% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5080 เร็วกว่า 168% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 5080 เร็วกว่า 349%
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 8050S เร็วกว่า 32%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 5080 เหนือกว่าใน 56การทดสอบ (97%)
- RX 8050S เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 85.93 | 36.13 |
RTX 5080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 137.8%
GeForce RTX 5080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 8050S ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 5080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon RX 8050S เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก
