GeForce RTX 4080 SUPER เทียบกับ RTX A1000 Mobile
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ RTX A1000 Mobile กับ GeForce RTX 4080 SUPER รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX A1000 Mobile อย่างมหาศาลถึง 257% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 229 | 6 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 73 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 38.53 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 28.50 | 19.09 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA107 | AD103 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 30 มีนาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 10240 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 630 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1140 MHz | 2550 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | ไม่มีข้อมูล | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 60 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 72.96 | 816.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.669 TFLOPS | 52.22 TFLOPS |
ROPs | 32 | 112 |
TMUs | 64 | 320 |
Tensor Cores | 64 | 320 |
Ray Tracing Cores | 16 | 80 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 310 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1375 MHz | 1438 MHz |
176.0 จีบี/s | 736.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 69
−270%
| 255
+270%
|
1440p | 27
−556%
| 177
+556%
|
4K | 30−35
−290%
| 117
+290%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.92 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 5.64 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 8.54 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 60−65
−369%
|
300
+369%
|
Counter-Strike 2 | 130−140
−160%
|
351
+160%
|
Cyberpunk 2077 | 61
−308%
|
249
+308%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 60−65
−338%
|
280
+338%
|
Battlefield 5 | 90−95
−112%
|
190−200
+112%
|
Counter-Strike 2 | 130−140
−155%
|
344
+155%
|
Cyberpunk 2077 | 50
−392%
|
246
+392%
|
Far Cry 5 | 85
−182%
|
240
+182%
|
Fortnite | 110−120
−160%
|
300−350
+160%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
−270%
|
344
+270%
|
Forza Horizon 5 | 70−75
−316%
|
308
+316%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
−94.5%
|
170−180
+94.5%
|
Valorant | 160−170
−235%
|
500−550
+235%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 60−65
−239%
|
217
+239%
|
Battlefield 5 | 90−95
−112%
|
190−200
+112%
|
Counter-Strike 2 | 130−140
−151%
|
339
+151%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 250−260
−9.9%
|
270−280
+9.9%
|
Cyberpunk 2077 | 37
−543%
|
238
+543%
|
Dota 2 | 112
−257%
|
400−450
+257%
|
Far Cry 5 | 79
−187%
|
227
+187%
|
Fortnite | 110−120
−160%
|
300−350
+160%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
−268%
|
342
+268%
|
Forza Horizon 5 | 70−75
−285%
|
285
+285%
|
Grand Theft Auto V | 91
−96.7%
|
179
+96.7%
|
Metro Exodus | 41
−454%
|
227
+454%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
−94.5%
|
170−180
+94.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 85
−544%
|
547
+544%
|
Valorant | 160−170
−235%
|
500−550
+235%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
−112%
|
190−200
+112%
|
Cyberpunk 2077 | 29
−586%
|
199
+586%
|
Dota 2 | 132
−241%
|
450−500
+241%
|
Far Cry 5 | 73
−190%
|
212
+190%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
−246%
|
322
+246%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
−94.5%
|
170−180
+94.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
−512%
|
263
+512%
|
Valorant | 160−170
−235%
|
500−550
+235%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 110−120
−160%
|
300−350
+160%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 50−55
−437%
|
274
+437%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 160−170
−213%
|
500−550
+213%
|
Grand Theft Auto V | 40−45
−302%
|
169
+302%
|
Metro Exodus | 24
−575%
|
162
+575%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−0.6%
|
170−180
+0.6%
|
Valorant | 200−210
−140%
|
450−500
+140%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 65−70
−202%
|
190−200
+202%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−457%
|
128
+457%
|
Far Cry 5 | 50−55
−285%
|
208
+285%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
−410%
|
306
+410%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−467%
|
221
+467%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 55−60
−170%
|
150−160
+170%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 18−20
−389%
|
85−90
+389%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−483%
|
134
+483%
|
Grand Theft Auto V | 40−45
−335%
|
187
+335%
|
Metro Exodus | 20−22
−430%
|
106
+430%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−483%
|
204
+483%
|
Valorant | 130−140
−144%
|
300−350
+144%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
−278%
|
130−140
+278%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−443%
|
120−130
+443%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−510%
|
61
+510%
|
Dota 2 | 75−80
−251%
|
270−280
+251%
|
Far Cry 5 | 27−30
−437%
|
145
+437%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−644%
|
305
+644%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 24−27
−284%
|
95−100
+284%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 24−27
−216%
|
75−80
+216%
|
นี่คือวิธีที่ RTX A1000 Mobile และ RTX 4080 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 270% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 556% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 290% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 644%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 4080 SUPER เหนือกว่า RTX A1000 Mobile ในการทดสอบทั้ง 60 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 21.48 | 76.73 |
ความใหม่ล่าสุด | 30 มีนาคม 2022 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 60 วัตต์ | 320 วัตต์ |
RTX A1000 Mobile มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 433.3%
ในทางกลับกัน RTX 4080 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 257.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%
GeForce RTX 4080 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX A1000 Mobile ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า RTX A1000 Mobile เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ GeForce RTX 4080 SUPER เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป