Arc A750 เทียบกับ GeForce RTX 3080
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3080 และ Arc A750 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3080 มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A750 อย่างมหาศาลถึง 105% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 29 | 180 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 46.44 | 57.64 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.08 | 9.79 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Generation 12.7 (2022−2023) |
ชื่อรหัส GPU | GA102 | DG2-512 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 12 ตุลาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $699 | $289 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
Arc A750 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3080 อยู่ 24%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 8704 | 3584 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1440 MHz | 2050 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1710 MHz | 2400 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 28,300 million | 21,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 Watt | 225 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 465.1 | 537.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 29.77 TFLOPS | 17.2 TFLOPS |
ROPs | 96 | 112 |
TMUs | 272 | 224 |
Tensor Cores | 272 | 448 |
Ray Tracing Cores | 68 | 28 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 285 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 10 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 320 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1188 MHz | 2000 MHz |
760.3 จีบี/s | 512.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 2.0 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.5 | - |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 167
+50.5%
| 111
−50.5%
|
1440p | 126
+117%
| 58
−117%
|
4K | 88
+144%
| 36
−144%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.19
−60.8%
| 2.60
+60.8%
|
1440p | 5.55
−11.3%
| 4.98
+11.3%
|
4K | 7.94
+1.1%
| 8.03
−1.1%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 307
+87.2%
|
164
−87.2%
|
Counter-Strike 2 | 150−160
+69.2%
|
91
−69.2%
|
Cyberpunk 2077 | 150−160
+101%
|
75
−101%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 239
+94.3%
|
123
−94.3%
|
Battlefield 5 | 172
+55%
|
110−120
−55%
|
Counter-Strike 2 | 150−160
+75%
|
88
−75%
|
Cyberpunk 2077 | 138
+109%
|
66
−109%
|
Far Cry 5 | 157
+41.4%
|
111
−41.4%
|
Fortnite | 280−290
+107%
|
130−140
−107%
|
Forza Horizon 4 | 230−240
+111%
|
112
−111%
|
Forza Horizon 5 | 152
+76.7%
|
85−90
−76.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+48.7%
|
110−120
−48.7%
|
Valorant | 300−350
+77.2%
|
180−190
−77.2%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 147
+65.2%
|
89
−65.2%
|
Battlefield 5 | 156
+40.5%
|
110−120
−40.5%
|
Counter-Strike 2 | 150−160
+103%
|
76
−103%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+1.5%
|
270−280
−1.5%
|
Cyberpunk 2077 | 134
+131%
|
58
−131%
|
Dota 2 | 147
+110%
|
70−75
−110%
|
Far Cry 5 | 150
+47.1%
|
102
−47.1%
|
Fortnite | 280−290
+107%
|
130−140
−107%
|
Forza Horizon 4 | 230−240
+123%
|
106
−123%
|
Forza Horizon 5 | 140
+62.8%
|
85−90
−62.8%
|
Grand Theft Auto V | 147
+48.5%
|
99
−48.5%
|
Metro Exodus | 128
+21.9%
|
105
−21.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+48.7%
|
110−120
−48.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 303
+63.8%
|
185
−63.8%
|
Valorant | 300−350
+77.2%
|
180−190
−77.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 145
+30.6%
|
110−120
−30.6%
|
Counter-Strike 2 | 150−160
+105%
|
75
−105%
|
Cyberpunk 2077 | 131
+138%
|
55
−138%
|
Dota 2 | 135
+108%
|
65−70
−108%
|
Far Cry 5 | 140
+42.9%
|
98
−42.9%
|
Forza Horizon 4 | 230−240
+162%
|
90
−162%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+48.7%
|
110−120
−48.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 149
+116%
|
69
−116%
|
Valorant | 268
+41.8%
|
180−190
−41.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 280−290
+107%
|
130−140
−107%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 55−60
+112%
|
24−27
−112%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 450−500
+119%
|
200−210
−119%
|
Grand Theft Auto V | 112
+173%
|
41
−173%
|
Metro Exodus | 95
+46.2%
|
65
−46.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 350−400
+73.1%
|
220−230
−73.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 124
+55%
|
80−85
−55%
|
Cyberpunk 2077 | 86
+105%
|
42
−105%
|
Far Cry 5 | 135
+77.6%
|
76
−77.6%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
+153%
|
79
−153%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 130−140
+140%
|
57
−140%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+104%
|
70−75
−104%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 50−55
+125%
|
24−27
−125%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+179%
|
14−16
−179%
|
Grand Theft Auto V | 143
+218%
|
45
−218%
|
Metro Exodus | 65
+51.2%
|
43
−51.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 115
+66.7%
|
69
−66.7%
|
Valorant | 300−350
+82.1%
|
170−180
−82.1%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 91
+97.8%
|
45−50
−97.8%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+179%
|
14
−179%
|
Cyberpunk 2077 | 43
+87%
|
23
−87%
|
Dota 2 | 129
+115%
|
60−65
−115%
|
Far Cry 5 | 94
+109%
|
45
−109%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+146%
|
61
−146%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+174%
|
35−40
−174%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+126%
|
35−40
−126%
|
Full HD
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 85−90
+0%
|
85−90
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 50−55
+0%
|
50−55
+0%
|
4K
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 30−33
+0%
|
30−33
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3080 และ Arc A750 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 เร็วกว่า 50% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 เร็วกว่า 117% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 เร็วกว่า 144% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3080 เร็วกว่า 218%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 64.65 | 31.59 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 กันยายน 2020 | 12 ตุลาคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 10 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 วัตต์ | 225 วัตต์ |
RTX 3080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 104.7% และ
ในทางกลับกัน Arc A750 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 33.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 42.2%
GeForce RTX 3080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A750 ในการทดสอบประสิทธิภาพ