Radeon RX 7800 XT เทียบกับ GeForce RTX 3060
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3060 และ Radeon RX 7800 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7800 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 3060 อย่างน่าสนใจ 42% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 87 | 35 |
จัดอันดับตามความนิยม | 5 | 66 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 67.99 | 67.99 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.90 | 16.38 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | GA106 | Navi 32 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 12 มกราคม 2021 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 25 สิงหาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $329 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3060 และ RX 7800 XT มีความคุ้มค่าใกล้เคียงกัน
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1320 MHz | 1295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1777 MHz | 2430 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,000 million | 28,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 Watt | 263 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 199.0 | 583.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.74 TFLOPS | 37.32 TFLOPS |
ROPs | 48 | 96 |
TMUs | 112 | 240 |
Tensor Cores | 112 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 28 | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 242 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1875 MHz | 2438 MHz |
360.0 จีบี/s | 624.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 114
−86%
| 212
+86%
|
1440p | 65
−89.2%
| 123
+89.2%
|
4K | 42
−71.4%
| 72
+71.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.89
−22.6%
| 2.35
+22.6%
|
1440p | 5.06
−24.8%
| 4.06
+24.8%
|
4K | 7.83
−13%
| 6.93
+13%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 120−130
−159%
|
324
+159%
|
Counter-Strike 2 | 230−240
−52.6%
|
351
+52.6%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−214%
|
248
+214%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 120−130
−94.4%
|
243
+94.4%
|
Battlefield 5 | 130−140
−20.4%
|
160−170
+20.4%
|
Counter-Strike 2 | 230−240
−54.3%
|
355
+54.3%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−151%
|
196
+151%
|
Far Cry 5 | 146
−39.7%
|
204
+39.7%
|
Fortnite | 170−180
−50.8%
|
260−270
+50.8%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−75.9%
|
278
+75.9%
|
Forza Horizon 5 | 124
−123%
|
276
+123%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−11.3%
|
170−180
+11.3%
|
Valorant | 230−240
−36.2%
|
300−350
+36.2%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 120−130
−16%
|
145
+16%
|
Battlefield 5 | 130−140
−20.4%
|
160−170
+20.4%
|
Counter-Strike 2 | 230−240
−23%
|
283
+23%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 75
−117%
|
163
+117%
|
Dota 2 | 156
−41%
|
220−230
+41%
|
Far Cry 5 | 135
−45.2%
|
196
+45.2%
|
Fortnite | 170−180
−50.8%
|
260−270
+50.8%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−65.2%
|
261
+65.2%
|
Forza Horizon 5 | 110
−133%
|
256
+133%
|
Grand Theft Auto V | 141
−26.2%
|
178
+26.2%
|
Metro Exodus | 81
−112%
|
172
+112%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−11.3%
|
170−180
+11.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 179
−104%
|
366
+104%
|
Valorant | 230−240
−36.2%
|
300−350
+36.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
−20.4%
|
160−170
+20.4%
|
Cyberpunk 2077 | 64
−134%
|
150
+134%
|
Dota 2 | 147
−36.1%
|
200−210
+36.1%
|
Far Cry 5 | 127
−43.3%
|
182
+43.3%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−40.5%
|
222
+40.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−11.3%
|
170−180
+11.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 87
−130%
|
200
+130%
|
Valorant | 230−240
−36.2%
|
300−350
+36.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
−50.8%
|
260−270
+50.8%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 100−110
−62%
|
175
+62%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 280−290
−51.6%
|
400−450
+51.6%
|
Grand Theft Auto V | 81
−72.8%
|
140
+72.8%
|
Metro Exodus | 50
−112%
|
106
+112%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
−39.5%
|
350−400
+39.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−37.5%
|
140−150
+37.5%
|
Cyberpunk 2077 | 39
−154%
|
99
+154%
|
Far Cry 5 | 94
−87.2%
|
176
+87.2%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−69.7%
|
202
+69.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
−104%
|
147
+104%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 110−120
−37.3%
|
150−160
+37.3%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
−50%
|
50−55
+50%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+16.7%
|
42
−16.7%
|
Grand Theft Auto V | 82
−85.4%
|
152
+85.4%
|
Metro Exodus | 32
−96.9%
|
63
+96.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 65
−81.5%
|
118
+81.5%
|
Valorant | 240−250
−28.5%
|
300−350
+28.5%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 65−70
−53%
|
100−110
+53%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
−57.1%
|
75−80
+57.1%
|
Cyberpunk 2077 | 18
−150%
|
45
+150%
|
Dota 2 | 115
−39.1%
|
160−170
+39.1%
|
Far Cry 5 | 48
−117%
|
104
+117%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
−105%
|
164
+105%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−65.5%
|
95−100
+65.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 55−60
−43.6%
|
75−80
+43.6%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3060 และ RX 7800 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7800 XT เร็วกว่า 86% ในความละเอียด 1080p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 89% ในความละเอียด 1440p
- RX 7800 XT เร็วกว่า 71% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3060 เร็วกว่า 17%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RX 7800 XT เร็วกว่า 214%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RX 7800 XT เหนือกว่าใน 57การทดสอบ (95%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 38.21 | 54.11 |
ความใหม่ล่าสุด | 12 มกราคม 2021 | 25 สิงหาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 วัตต์ | 263 วัตต์ |
RTX 3060 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 54.7%
ในทางกลับกัน RX 7800 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 41.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%
Radeon RX 7800 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 3060 ในการทดสอบประสิทธิภาพ