Radeon RX 7600 เทียบกับ GeForce RTX 3060
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3060 และ Radeon RX 7600 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3060 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 7600 อย่างน้อย 3% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 84 | 87 |
จัดอันดับตามความนิยม | 5 | 89 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 69.99 | 93.50 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.99 | 18.03 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | GA106 | Navi 33 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 12 มกราคม 2021 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 24 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $329 | $269 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7600 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3060 อยู่ 34%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 2048 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1320 MHz | 1720 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1777 MHz | 2655 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,000 million | 13,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 Watt | 165 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 199.0 | 339.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.74 TFLOPS | 21.75 TFLOPS |
ROPs | 48 | 64 |
TMUs | 112 | 128 |
Tensor Cores | 112 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 28 | 32 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 242 mm | 204 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1875 MHz | 2250 MHz |
360.0 จีบี/s | 288.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 118
−22.9%
| 145
+22.9%
|
1440p | 68
+1.5%
| 67
−1.5%
|
4K | 47
+34.3%
| 35
−34.3%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.79
−50.3%
| 1.86
+50.3%
|
1440p | 4.84
−20.5%
| 4.01
+20.5%
|
4K | 7.00
+9.8%
| 7.69
−9.8%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 120−130
−70.4%
|
213
+70.4%
|
Counter-Strike 2 | 95−100
−40.6%
|
135
+40.6%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−87.3%
|
148
+87.3%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 120−130
−26.4%
|
158
+26.4%
|
Battlefield 5 | 130−140
+1.5%
|
130−140
−1.5%
|
Counter-Strike 2 | 97
−11.3%
|
108
+11.3%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−50%
|
117
+50%
|
Far Cry 5 | 146
−25.3%
|
183
+25.3%
|
Fortnite | 170−180
+2.3%
|
170−180
−2.3%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+2.6%
|
150−160
−2.6%
|
Forza Horizon 5 | 124
+5.1%
|
110−120
−5.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+1.9%
|
150−160
−1.9%
|
Valorant | 230−240
+1.7%
|
230−240
−1.7%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 120−130
+34.4%
|
93
−34.4%
|
Battlefield 5 | 130−140
+1.5%
|
130−140
−1.5%
|
Counter-Strike 2 | 83
−8.4%
|
90
+8.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 75
−33.3%
|
100
+33.3%
|
Dota 2 | 156
+4%
|
150−160
−4%
|
Far Cry 5 | 135
−28.9%
|
174
+28.9%
|
Fortnite | 170−180
+2.3%
|
170−180
−2.3%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+2.6%
|
150−160
−2.6%
|
Forza Horizon 5 | 96
−22.9%
|
110−120
+22.9%
|
Grand Theft Auto V | 141
−6.4%
|
150
+6.4%
|
Metro Exodus | 81
−39.5%
|
113
+39.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+1.9%
|
150−160
−1.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 178
−18%
|
210
+18%
|
Valorant | 230−240
+1.7%
|
230−240
−1.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+1.5%
|
130−140
−1.5%
|
Counter-Strike 2 | 72
−12.5%
|
81
+12.5%
|
Cyberpunk 2077 | 64
−40.6%
|
90
+40.6%
|
Dota 2 | 147
+5%
|
140−150
−5%
|
Far Cry 5 | 127
−28.3%
|
163
+28.3%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+2.6%
|
150−160
−2.6%
|
Forza Horizon 5 | 79
+5.3%
|
75−80
−5.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+1.9%
|
150−160
−1.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 82
−50%
|
123
+50%
|
Valorant | 230−240
+1.7%
|
230−240
−1.7%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
+2.3%
|
170−180
−2.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
+0%
|
30−35
+0%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 280−290
+2.5%
|
270−280
−2.5%
|
Grand Theft Auto V | 81
+5.2%
|
77
−5.2%
|
Metro Exodus | 50
−30%
|
65
+30%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
+1.5%
|
260−270
−1.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
+3%
|
100−110
−3%
|
Cyberpunk 2077 | 39
−43.6%
|
56
+43.6%
|
Far Cry 5 | 94
−22.3%
|
115
+22.3%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+3.5%
|
110−120
−3.5%
|
Forza Horizon 5 | 62
+3.3%
|
60−65
−3.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
−19.4%
|
86
+19.4%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 110−120
+3.8%
|
100−110
−3.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
+3%
|
30−35
−3%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
+0%
|
20−22
+0%
|
Grand Theft Auto V | 82
+0%
|
82
+0%
|
Metro Exodus | 32
−18.8%
|
38
+18.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 64
+8.5%
|
59
−8.5%
|
Valorant | 240−250
+2.5%
|
240−250
−2.5%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 65−70
+3.1%
|
60−65
−3.1%
|
Counter-Strike 2 | 9
−22.2%
|
11
+22.2%
|
Cyberpunk 2077 | 18
−33.3%
|
24
+33.3%
|
Dota 2 | 115
+4.5%
|
110−120
−4.5%
|
Far Cry 5 | 48
−18.8%
|
57
+18.8%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+3.9%
|
75−80
−3.9%
|
Forza Horizon 5 | 36
+2.9%
|
35−40
−2.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
+5.5%
|
55−60
−5.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 55−60
+3.8%
|
50−55
−3.8%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3060 และ RX 7600 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เร็วกว่า 23% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3060 เร็วกว่า 1% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3060 เร็วกว่า 34% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3060 เร็วกว่า 34%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RX 7600 เร็วกว่า 87%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 เหนือกว่าใน 30การทดสอบ (49%)
- RX 7600 เหนือกว่าใน 26การทดสอบ (43%)
- เสมอกันใน 5การทดสอบ (8%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 43.87 | 42.68 |
ความใหม่ล่าสุด | 12 มกราคม 2021 | 24 พฤษภาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 วัตต์ | 165 วัตต์ |
RTX 3060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 2.8% และ
ในทางกลับกัน RX 7600 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 33.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 3%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง GeForce RTX 3060 และ Radeon RX 7600 ได้อย่างชัดเจน