GeForce RTX 4070 Ti เทียบกับ RTX 3060 Mobile
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3060 Mobile กับ GeForce RTX 4070 Ti รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 3060 Mobile อย่างมหาศาลถึง 153% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 176 | 8 |
จัดอันดับตามความนิยม | 67 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 49.03 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 28.08 | 19.95 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA106 | AD104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 12 มกราคม 2021 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 7680 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 900 MHz | 2310 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1425 MHz | 2610 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,250 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 Watt | 285 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 171.0 | 626.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.94 TFLOPS | 40.09 TFLOPS |
ROPs | 48 | 80 |
TMUs | 120 | 240 |
Tensor Cores | 120 | 240 |
Ray Tracing Cores | 30 | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 285 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1313 MHz |
336.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 99
−127%
| 225
+127%
|
1440p | 66
−124%
| 148
+124%
|
4K | 43
−116%
| 93
+116%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.55 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 5.40 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 8.59 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 174
−81.6%
|
316
+81.6%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−202%
|
190−200
+202%
|
Cyberpunk 2077 | 103
−129%
|
236
+129%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 131
−93.1%
|
253
+93.1%
|
Battlefield 5 | 110−120
−70.8%
|
190−200
+70.8%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−202%
|
190−200
+202%
|
Cyberpunk 2077 | 86
−153%
|
218
+153%
|
Far Cry 5 | 112
−88.4%
|
211
+88.4%
|
Fortnite | 140−150
−116%
|
300−350
+116%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−166%
|
300−350
+166%
|
Forza Horizon 5 | 115
−112%
|
244
+112%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−46.3%
|
170−180
+46.3%
|
Valorant | 190−200
−145%
|
450−500
+145%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 75
−140%
|
180
+140%
|
Battlefield 5 | 141
−36.9%
|
190−200
+36.9%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−202%
|
190−200
+202%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−1.5%
|
270−280
+1.5%
|
Cyberpunk 2077 | 69
−168%
|
185
+168%
|
Dota 2 | 131
−97.7%
|
259
+97.7%
|
Far Cry 5 | 106
−91.5%
|
203
+91.5%
|
Fortnite | 140−150
−116%
|
300−350
+116%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−166%
|
300−350
+166%
|
Forza Horizon 5 | 99
−130%
|
228
+130%
|
Grand Theft Auto V | 121
−47.1%
|
178
+47.1%
|
Metro Exodus | 81
−143%
|
197
+143%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−46.3%
|
170−180
+46.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 142
−219%
|
453
+219%
|
Valorant | 189
−149%
|
450−500
+149%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 131
−47.3%
|
190−200
+47.3%
|
Counter-Strike 2 | 61
−216%
|
190−200
+216%
|
Cyberpunk 2077 | 62
−169%
|
167
+169%
|
Dota 2 | 124
−96%
|
243
+96%
|
Far Cry 5 | 101
−87.1%
|
189
+87.1%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−166%
|
300−350
+166%
|
Forza Horizon 5 | 81
−147%
|
200−210
+147%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−46.3%
|
170−180
+46.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 78
−185%
|
222
+185%
|
Valorant | 172
−173%
|
450−500
+173%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 140−150
−116%
|
300−350
+116%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
−146%
|
500−550
+146%
|
Grand Theft Auto V | 75
−108%
|
156
+108%
|
Metro Exodus | 50
−162%
|
131
+162%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 304
−59.5%
|
450−500
+59.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 104
−88.5%
|
190−200
+88.5%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−141%
|
65−70
+141%
|
Cyberpunk 2077 | 39
−169%
|
105
+169%
|
Far Cry 5 | 84
−117%
|
182
+117%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
−244%
|
280−290
+244%
|
Forza Horizon 5 | 63
−138%
|
150−160
+138%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 50−55
−269%
|
190−200
+269%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 75−80
−98.7%
|
150−160
+98.7%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−221%
|
75−80
+221%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−347%
|
65−70
+347%
|
Grand Theft Auto V | 73
−136%
|
172
+136%
|
Metro Exodus | 31
−171%
|
84
+171%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55
−171%
|
149
+171%
|
Valorant | 180−190
−81.4%
|
300−350
+81.4%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 63
−116%
|
130−140
+116%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−347%
|
65−70
+347%
|
Cyberpunk 2077 | 15
−220%
|
48
+220%
|
Dota 2 | 95
−138%
|
226
+138%
|
Far Cry 5 | 40
−178%
|
111
+178%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−351%
|
240−250
+351%
|
Forza Horizon 5 | 34
−150%
|
85−90
+150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−167%
|
95−100
+167%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−119%
|
75−80
+119%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3060 Mobile และ RTX 4070 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 127% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 124% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 116% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti เร็วกว่า 351%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 32.23 | 81.56 |
ความใหม่ล่าสุด | 12 มกราคม 2021 | 3 มกราคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 วัตต์ | 285 วัตต์ |
RTX 3060 Mobile มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 256.3%
ในทางกลับกัน RTX 4070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 153.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
GeForce RTX 4070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 3060 Mobile ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 3060 Mobile เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4070 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป