Radeon 680M เทียบกับ GeForce MX250
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce MX250 และ Radeon 680M โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
680M มีประสิทธิภาพดีกว่า MX250 อย่างมหาศาล 39% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 589 | 506 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 42.94 | 11.93 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GP108B | Rembrandt+ |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 384 | 768 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 937 MHz | 2000 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1038 MHz | 2200 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 1,800 million | 13,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 10 Watt | 50 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 24.91 | 105.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 0.7972 TFLOPS | 3.379 TFLOPS |
ROPs | 16 | 32 |
TMUs | 24 | 48 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 12 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x4 | PCIe 4.0 x8 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 64 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1502 MHz | System Shared |
48.06 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | Portable Device Dependent |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 (6.4) | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 6.1 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 23
−60.9%
| 37
+60.9%
|
1440p | 12−14
−41.7%
| 17
+41.7%
|
4K | 7−8
−57.1%
| 11
+57.1%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 27
−74.1%
|
47
+74.1%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−115%
|
28
+115%
|
Cyberpunk 2077 | 14
−171%
|
38
+171%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 20
−85%
|
37
+85%
|
Battlefield 5 | 24
−50%
|
35−40
+50%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−76.9%
|
23
+76.9%
|
Cyberpunk 2077 | 11
−155%
|
28
+155%
|
Far Cry 5 | 19
−100%
|
38
+100%
|
Fortnite | 55
+12.2%
|
45−50
−12.2%
|
Forza Horizon 4 | 31
−16.1%
|
35−40
+16.1%
|
Forza Horizon 5 | 16
−138%
|
38
+138%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 28
−3.6%
|
27−30
+3.6%
|
Valorant | 118
+43.9%
|
80−85
−43.9%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 7
−186%
|
20
+186%
|
Battlefield 5 | 19
−89.5%
|
35−40
+89.5%
|
Counter-Strike 2 | 5
−320%
|
21
+320%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 95−100
−29.6%
|
120−130
+29.6%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−75%
|
21
+75%
|
Dota 2 | 64
−10.9%
|
71
+10.9%
|
Far Cry 5 | 17
−106%
|
35
+106%
|
Fortnite | 25
−96%
|
45−50
+96%
|
Forza Horizon 4 | 24
−50%
|
35−40
+50%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−42.9%
|
20−22
+42.9%
|
Grand Theft Auto V | 28
−28.6%
|
36
+28.6%
|
Metro Exodus | 7
−229%
|
23
+229%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 23
−26.1%
|
27−30
+26.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21
−90.5%
|
40
+90.5%
|
Valorant | 115
+40.2%
|
80−85
−40.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 14
−157%
|
35−40
+157%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−23.1%
|
16−18
+23.1%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−50%
|
18
+50%
|
Dota 2 | 57
−7%
|
61
+7%
|
Far Cry 5 | 16
−106%
|
33
+106%
|
Forza Horizon 4 | 16
−125%
|
35−40
+125%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−85.7%
|
26
+85.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 19
−52.6%
|
27−30
+52.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12
−100%
|
24
+100%
|
Valorant | 65−70
−118%
|
146
+118%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 22
−123%
|
45−50
+123%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 45−50
−37.8%
|
60−65
+37.8%
|
Grand Theft Auto V | 7−8
−143%
|
17
+143%
|
Metro Exodus | 5−6
−60%
|
8−9
+60%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−13.5%
|
40−45
+13.5%
|
Valorant | 65−70
−39.4%
|
90−95
+39.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 9−10
−100%
|
18−20
+100%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−37.5%
|
10−12
+37.5%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−100%
|
10
+100%
|
Far Cry 5 | 10−12
−90.9%
|
21
+90.9%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
−35.7%
|
18−20
+35.7%
|
Forza Horizon 5 | 9−10
−55.6%
|
14−16
+55.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 9−10
−88.9%
|
17
+88.9%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 12−14
−41.7%
|
16−18
+41.7%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 5−6
−40%
|
7−8
+40%
|
Counter-Strike 2 | 0−1 | 2−3 |
Grand Theft Auto V | 16−18
−11.8%
|
18−20
+11.8%
|
Metro Exodus | 0−1 | 3−4 |
The Witcher 3: Wild Hunt | 3−4
−333%
|
13
+333%
|
Valorant | 30−33
−40%
|
40−45
+40%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 4−5
−125%
|
9−10
+125%
|
Counter-Strike 2 | 0−1 | 2−3 |
Cyberpunk 2077 | 2−3
−100%
|
4
+100%
|
Dota 2 | 21−24
+16.7%
|
18
−16.7%
|
Far Cry 5 | 6−7
−33.3%
|
8−9
+33.3%
|
Forza Horizon 4 | 9−10
−44.4%
|
12−14
+44.4%
|
Forza Horizon 5 | 3−4
−100%
|
6−7
+100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 6−7
−33.3%
|
8−9
+33.3%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 6−7
−33.3%
|
8−9
+33.3%
|
นี่คือวิธีที่ GeForce MX250 และ Radeon 680M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Radeon 680M เร็วกว่า 61% ในความละเอียด 1080p
- Radeon 680M เร็วกว่า 42% ในความละเอียด 1440p
- Radeon 680M เร็วกว่า 57% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ GeForce MX250 เร็วกว่า 44%
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Radeon 680M เร็วกว่า 333%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GeForce MX250 เหนือกว่าใน 4การทดสอบ (6%)
- Radeon 680M เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (94%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 6.16 | 8.56 |
ความใหม่ล่าสุด | 20 กุมภาพันธ์ 2019 | 3 มกราคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 10 วัตต์ | 50 วัตต์ |
GeForce MX250 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 400%
ในทางกลับกัน Radeon 680M มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 39% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%
Radeon 680M เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX250 ในการทดสอบประสิทธิภาพ