GeForce RTX 2070 Super เทียบกับ MX150
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce MX150 กับ GeForce RTX 2070 Super รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 2070 Super มีประสิทธิภาพดีกว่า MX150 อย่างมหาศาลถึง 704% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 600 | 73 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 97 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 40.91 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 40.66 | 15.21 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | GP108 | TU104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 17 พฤษภาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 9 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 384 | 2560 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 937 MHz | 1605 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1038 MHz | 1770 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 1,800 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 10 Watt | 215 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 24.91 | 283.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 0.7972 TFLOPS | 9.062 TFLOPS |
ROPs | 16 | 64 |
TMUs | 24 | 160 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 320 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 40 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 64 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1253 MHz | 1750 MHz |
40.1 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C |
HDMI | - | + |
รองรับ G-SYNC | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | 6.1 | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
SPECviewperf 12 - specvp12 maya-04
SPECviewperf 12 - specvp12 sw-03
SPECviewperf 12 - specvp12 snx-02
SPECviewperf 12 - specvp12 catia-04
SPECviewperf 12 - specvp12 creo-01
SPECviewperf 12 - specvp12 mediacal-01
SPECviewperf 12 - specvp12 showcase-01
SPECviewperf 12 - specvp12 energy-01
SPECviewperf 12 - Showcase
SPECviewperf 12 - Maya
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 สำหรับเวิร์กสเตชัน ใช้เอนจิน Autodesk Maya 13 เพื่อเรนเดอร์ฉากโรงไฟฟ้าพลังงานของซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งประกอบด้วยโพลีกอนมากกว่า 700,000 ชิ้น ในโหมดที่แตกต่างกันถึง 6 โหมด
SPECviewperf 12 - Catia
SPECviewperf 12 - Solidworks
SPECviewperf 12 - Siemens NX
SPECviewperf 12 - Creo
SPECviewperf 12 - Medical
SPECviewperf 12 - Energy
SPECviewperf 12 - specvp12 3dsmax-05
SPECviewperf 12 - 3ds Max
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 จำลองการทำงานกับ 3DS Max โดยรันการทดสอบทั้งหมด 11 ครั้งในสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการสร้างแบบจำลองสถาปัตยกรรมและแอนิเมชันสำหรับเกมคอมพิวเตอร์
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 26
−415%
| 134
+415%
|
1440p | 28
−182%
| 79
+182%
|
4K | 20
−155%
| 51
+155%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.72 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 6.32 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 9.78 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 14−16
−680%
|
117
+680%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−683%
|
94
+683%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 15
−553%
|
98
+553%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−540%
|
96
+540%
|
Cyberpunk 2077 | 9
−856%
|
86
+856%
|
Forza Horizon 4 | 27
−833%
|
252
+833%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−992%
|
131
+992%
|
Metro Exodus | 18
−522%
|
112
+522%
|
Red Dead Redemption 2 | 27
−352%
|
122
+352%
|
Valorant | 24
−792%
|
214
+792%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 21
−757%
|
180
+757%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−460%
|
84
+460%
|
Cyberpunk 2077 | 3
−2433%
|
76
+2433%
|
Dota 2 | 40
−255%
|
142
+255%
|
Far Cry 5 | 42
−119%
|
92
+119%
|
Fortnite | 29
−479%
|
168
+479%
|
Forza Horizon 4 | 21
−843%
|
198
+843%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−750%
|
102
+750%
|
Grand Theft Auto V | 26
−458%
|
145
+458%
|
Metro Exodus | 11
−709%
|
89
+709%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 56
−345%
|
249
+345%
|
Red Dead Redemption 2 | 16−18
−294%
|
67
+294%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 22
−682%
|
170−180
+682%
|
Valorant | 17
−653%
|
128
+653%
|
World of Tanks | 87
−221%
|
270−280
+221%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 14
−507%
|
85
+507%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−420%
|
78
+420%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−475%
|
69
+475%
|
Dota 2 | 62
−108%
|
129
+108%
|
Far Cry 5 | 26
−312%
|
100−110
+312%
|
Forza Horizon 4 | 16
−944%
|
167
+944%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−733%
|
100
+733%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 19
−653%
|
143
+653%
|
Valorant | 18−20
−921%
|
194
+921%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 6−7
−1483%
|
95
+1483%
|
Grand Theft Auto V | 6−7
−1483%
|
95
+1483%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 43
−307%
|
170−180
+307%
|
Red Dead Redemption 2 | 5−6
−780%
|
44
+780%
|
World of Tanks | 55
−449%
|
300−350
+449%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 10−11
−730%
|
83
+730%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−700%
|
80−85
+700%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−800%
|
45
+800%
|
Far Cry 5 | 12−14
−1150%
|
150−160
+1150%
|
Forza Horizon 4 | 10−12
−1018%
|
123
+1018%
|
Forza Horizon 5 | 8−9
−750%
|
68
+750%
|
Metro Exodus | 7−8
−1200%
|
91
+1200%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 9−10
−889%
|
85−90
+889%
|
Valorant | 16−18
−763%
|
138
+763%
|
4K
High Preset
Dota 2 | 16−18
−447%
|
93
+447%
|
Grand Theft Auto V | 16−18
−447%
|
93
+447%
|
Metro Exodus | 0−1 | 37 |
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21
−681%
|
164
+681%
|
Red Dead Redemption 2 | 4−5
−600%
|
28
+600%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 16−18
−447%
|
93
+447%
|
World of Tanks | 30
−700%
|
240−250
+700%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 5−6
−1040%
|
57
+1040%
|
Cyberpunk 2077 | 2−3
−1000%
|
22
+1000%
|
Dota 2 | 24
−433%
|
128
+433%
|
Far Cry 5 | 7−8
−986%
|
75−80
+986%
|
Fortnite | 5−6
−1360%
|
70−75
+1360%
|
Forza Horizon 4 | 6−7
−983%
|
65
+983%
|
Forza Horizon 5 | 3−4
−1200%
|
39
+1200%
|
Valorant | 5−6
−1360%
|
73
+1360%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
+0%
|
35−40
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+0%
|
21−24
+0%
|
4K
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 12
+0%
|
12
+0%
|
นี่คือวิธีที่ GeForce MX150 และ RTX 2070 Super แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 415% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 182% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 155% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 2070 Super เร็วกว่า 2433%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (95%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 5.69 | 45.75 |
ความใหม่ล่าสุด | 17 พฤษภาคม 2017 | 9 กรกฎาคม 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 10 วัตต์ | 215 วัตต์ |
GeForce MX150 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 2050%
ในทางกลับกัน RTX 2070 Super มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 704% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 16.7%
GeForce RTX 2070 Super เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX150 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce MX150 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 2070 Super เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ