GeForce RTX 2070 เทียบกับ GTX 980 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 980 Ti และ GeForce RTX 2070 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2070 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 980 Ti อย่างปานกลาง 17% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 136 | 93 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 14.40 | 32.81 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 9.90 | 16.53 |
สถาปัตยกรรม | Maxwell 2.0 (2014−2019) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | GM200 | TU106 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 2 มิถุนายน 2015 (เมื่อ 9 ปี ปีที่แล้ว) | 17 ตุลาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $649 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 2070 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 980 Ti อยู่ 128%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2816 | 2304 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1000 MHz | 1410 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1075 MHz | 1620 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 8,000 million | 10,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 175 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 189.4 | 233.3 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.06 TFLOPS | 7.465 TFLOPS |
ROPs | 96 | 64 |
TMUs | 176 | 144 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 288 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 36 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | PCI Express 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 229 mm |
ความสูง | 11.1 ซม | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
กำลังไฟระบบที่แนะนำ (PSU) | 600 วัตต์ | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 1x 8-pin |
ตัวเลือก SLI | + | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 7.0 จีบี/s | 1750 MHz |
336.5 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Dual Link DVI-I, HDMI 2.0, 3x DisplayPort 1.2 | 1x DVI, 1x HDMI, 2x DisplayPort, 1x USB Type-C |
รองรับหลายจอภาพ | 4 displays | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | + |
HDCP | + | - |
ความละเอียด VGA สูงสุด | 2048x1536 | ไม่มีข้อมูล |
รองรับ G-SYNC | + | + |
อินพุตเสียงสำหรับ HDMI | Internal | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
GameStream | + | - |
GeForce ShadowPlay | + | - |
GPU Boost | 2.0 | ไม่มีข้อมูล |
GameWorks | + | - |
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.5 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.1.126 | 1.2.131 |
CUDA | + | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
SPECviewperf 12 - Showcase
SPECviewperf 12 - Maya
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 สำหรับเวิร์กสเตชัน ใช้เอนจิน Autodesk Maya 13 เพื่อเรนเดอร์ฉากโรงไฟฟ้าพลังงานของซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งประกอบด้วยโพลีกอนมากกว่า 700,000 ชิ้น ในโหมดที่แตกต่างกันถึง 6 โหมด
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 99
−30.3%
| 129
+30.3%
|
1440p | 51
−72.5%
| 88
+72.5%
|
4K | 53
−17%
| 62
+17%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 6.56
−69.5%
| 3.87
+69.5%
|
1440p | 12.73
−124%
| 5.67
+124%
|
4K | 12.25
−52.1%
| 8.05
+52.1%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 70−75
−21.9%
|
85−90
+21.9%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−19.7%
|
90−95
+19.7%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 95−100
+10%
|
90
−10%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−21.9%
|
85−90
+21.9%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+68.9%
|
45
−68.9%
|
Forza Horizon 4 | 170−180
−21.8%
|
200−210
+21.8%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−16.3%
|
100−110
+16.3%
|
Metro Exodus | 85−90
−17%
|
103
+17%
|
Red Dead Redemption 2 | 70−75
−52.8%
|
110
+52.8%
|
Valorant | 140−150
−45.5%
|
208
+45.5%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 95−100
−61.6%
|
160
+61.6%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−21.9%
|
85−90
+21.9%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+105%
|
37
−105%
|
Dota 2 | 23
−465%
|
130
+465%
|
Far Cry 5 | 90−95
+0%
|
93
+0%
|
Fortnite | 160−170
−3.1%
|
166
+3.1%
|
Forza Horizon 4 | 170−180
−21.8%
|
200−210
+21.8%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−16.3%
|
100−110
+16.3%
|
Grand Theft Auto V | 34
−274%
|
127
+274%
|
Metro Exodus | 85−90
+10%
|
80
−10%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 190−200
−26.9%
|
245
+26.9%
|
Red Dead Redemption 2 | 70−75
+10.8%
|
65
−10.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 50
−202%
|
150−160
+202%
|
Valorant | 140−150
+14.4%
|
125
−14.4%
|
World of Tanks | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 73
−8.2%
|
79
+8.2%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−21.9%
|
85−90
+21.9%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+138%
|
32
−138%
|
Dota 2 | 110−120
−13%
|
130
+13%
|
Far Cry 5 | 90−95
−7.5%
|
100−105
+7.5%
|
Forza Horizon 4 | 170−180
−21.8%
|
200−210
+21.8%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−16.3%
|
100−110
+16.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 190−200
+46.2%
|
132
−46.2%
|
Valorant | 140−150
−28.7%
|
184
+28.7%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 65−70
−21.5%
|
75−80
+21.5%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
−19.7%
|
75−80
+19.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 35−40
−20%
|
42
+20%
|
World of Tanks | 220−230
−16.2%
|
260−270
+16.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 65−70
−11.8%
|
76
+11.8%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−22.9%
|
40−45
+22.9%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+66.7%
|
21
−66.7%
|
Far Cry 5 | 110−120
−18.3%
|
130−140
+18.3%
|
Forza Horizon 4 | 100−110
−20.6%
|
120−130
+20.6%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−18.6%
|
70−75
+18.6%
|
Metro Exodus | 75−80
−3.8%
|
82
+3.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60−65
−25%
|
75−80
+25%
|
Valorant | 100−110
−16.5%
|
127
+16.5%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−22.2%
|
40−45
+22.2%
|
Dota 2 | 79
−8.9%
|
86
+8.9%
|
Grand Theft Auto V | 79
−8.9%
|
86
+8.9%
|
Metro Exodus | 27−30
−10.3%
|
32
+10.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−12.3%
|
128
+12.3%
|
Red Dead Redemption 2 | 21−24
−17.4%
|
27
+17.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 79
−8.9%
|
86
+8.9%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30
−60%
|
48
+60%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−22.2%
|
40−45
+22.2%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
+50%
|
10
−50%
|
Dota 2 | 132
+13.8%
|
116
−13.8%
|
Far Cry 5 | 50−55
−23.1%
|
60−65
+23.1%
|
Fortnite | 45−50
−24.5%
|
60−65
+24.5%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−20.7%
|
70−75
+20.7%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−21.2%
|
40−45
+21.2%
|
Valorant | 55−60
−21.4%
|
68
+21.4%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 980 Ti และ RTX 2070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 เร็วกว่า 30% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2070 เร็วกว่า 73% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2070 เร็วกว่า 17% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 980 Ti เร็วกว่า 138%
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 2070 เร็วกว่า 465%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 980 Ti เหนือกว่าใน 11การทดสอบ (17%)
- RTX 2070 เหนือกว่าใน 50การทดสอบ (78%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 35.89 | 41.98 |
ความใหม่ล่าสุด | 2 มิถุนายน 2015 | 17 ตุลาคม 2018 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 175 วัตต์ |
RTX 2070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 17% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 42.9%
GeForce RTX 2070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 980 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ