GeForce RTX 3080 เทียบกับ GTX 1660 Ti Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 Ti Max-Q กับ GeForce RTX 3080 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3080 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 Ti Max-Q อย่างมหาศาลถึง 186% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 253 | 29 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 69.08 | 46.44 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 26.22 | 14.04 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | GA102 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | $699 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 1660 Ti Max-Q มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3080 อยู่ 49%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 8704 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1140 MHz | 1440 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1335 MHz | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 28,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 60 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 128.2 | 465.1 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.101 TFLOPS | 29.77 TFLOPS |
ROPs | 48 | 96 |
TMUs | 96 | 272 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 272 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 68 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 285 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 10 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 320 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1188 MHz |
288.0 จีบี/s | 760.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2 |
CUDA | 7.5 | 8.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 79
−111%
| 167
+111%
|
1440p | 40−45
−215%
| 126
+215%
|
4K | 33
−167%
| 88
+167%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.90
+44.4%
| 4.19
−44.4%
|
1440p | 5.73
−3.2%
| 5.55
+3.2%
|
4K | 6.94
+14.5%
| 7.94
−14.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 55−60
−429%
|
307
+429%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−276%
|
150−160
+276%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−228%
|
150−160
+228%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 55−60
−312%
|
239
+312%
|
Battlefield 5 | 83
−107%
|
172
+107%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−276%
|
150−160
+276%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−200%
|
138
+200%
|
Far Cry 5 | 69
−128%
|
157
+128%
|
Fortnite | 92
−211%
|
280−290
+211%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−174%
|
230−240
+174%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−149%
|
152
+149%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
−113%
|
170−180
+113%
|
Valorant | 150−160
−118%
|
300−350
+118%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 55−60
−153%
|
147
+153%
|
Battlefield 5 | 78
−100%
|
156
+100%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−276%
|
150−160
+276%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
−13.5%
|
270−280
+13.5%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−191%
|
134
+191%
|
Dota 2 | 94
−56.4%
|
147
+56.4%
|
Far Cry 5 | 66
−127%
|
150
+127%
|
Fortnite | 90
−218%
|
280−290
+218%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−174%
|
230−240
+174%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−130%
|
140
+130%
|
Grand Theft Auto V | 87
−69%
|
147
+69%
|
Metro Exodus | 48
−167%
|
128
+167%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
−113%
|
170−180
+113%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 92
−229%
|
303
+229%
|
Valorant | 150−160
−118%
|
300−350
+118%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 73
−98.6%
|
145
+98.6%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−276%
|
150−160
+276%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−185%
|
131
+185%
|
Dota 2 | 86
−57%
|
135
+57%
|
Far Cry 5 | 62
−126%
|
140
+126%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−174%
|
230−240
+174%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−179%
|
170−180
+179%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
−113%
|
170−180
+113%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 51
−192%
|
149
+192%
|
Valorant | 93
−188%
|
268
+188%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 79
−262%
|
280−290
+262%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 150−160
−195%
|
450−500
+195%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
−195%
|
112
+195%
|
Metro Exodus | 27−30
−239%
|
95
+239%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−0.6%
|
170−180
+0.6%
|
Valorant | 190−200
−104%
|
350−400
+104%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
−107%
|
124
+107%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−173%
|
60−65
+173%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−310%
|
86
+310%
|
Far Cry 5 | 45−50
−176%
|
135
+176%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−264%
|
200−210
+264%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−182%
|
110−120
+182%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−291%
|
130−140
+291%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
−202%
|
150−160
+202%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
−218%
|
50−55
+218%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−290%
|
35−40
+290%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
−267%
|
143
+267%
|
Metro Exodus | 18−20
−261%
|
65
+261%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 31
−271%
|
115
+271%
|
Valorant | 120−130
−163%
|
300−350
+163%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 38
−139%
|
91
+139%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−290%
|
35−40
+290%
|
Cyberpunk 2077 | 9−10
−378%
|
43
+378%
|
Dota 2 | 70−75
−79.2%
|
129
+79.2%
|
Far Cry 5 | 30
−213%
|
94
+213%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−295%
|
150−160
+295%
|
Forza Horizon 5 | 20−22
−175%
|
55−60
+175%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−336%
|
95−100
+336%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 21−24
−243%
|
75−80
+243%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 55−60
+0%
|
55−60
+0%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 Ti Max-Q และ RTX 3080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 เร็วกว่า 111% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 เร็วกว่า 215% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 เร็วกว่า 167% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 3080 เร็วกว่า 429%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 22.80 | 65.11 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 เมษายน 2019 | 1 กันยายน 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 10 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 60 วัตต์ | 320 วัตต์ |
GTX 1660 Ti Max-Q มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 433.3%
ในทางกลับกัน RTX 3080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 185.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%
GeForce RTX 3080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce GTX 1660 Ti Max-Q เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 3080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป