GeForce RTX 2080 เทียบกับ GTX 1080
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1080 และ GeForce RTX 2080 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2080 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1080 อย่างมาก 21% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 102 | 65 |
จัดอันดับตามความนิยม | 63 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 19.61 | 26.95 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.51 | 15.67 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | GP104 | TU104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 27 พฤษภาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $599 | $699 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 2080 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1080 อยู่ 37%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2560 | 2944 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1607 MHz | 1515 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1733 MHz | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 7,200 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 16 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 180 Watt | 215 Watt |
อุณหภูมิ GPU สูงสุด | 94 °C | ไม่มีข้อมูล |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 277.3 | 314.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 8.873 TFLOPS | 10.07 TFLOPS |
ROPs | 64 | 64 |
TMUs | 160 | 184 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 368 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | PCIe 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความสูง | 11.1 ซม | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
กำลังไฟระบบที่แนะนำ (PSU) | 500 วัตต์ | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ตัวเลือก SLI | + | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 10 จีบี/s | 1750 MHz |
320 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | DP 1.42, HDMI 2.0b, DL-DVI | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C |
รองรับหลายจอภาพ | + | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
GPU Boost | 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
VR Ready | + | + |
Ansel | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.5 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | + | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
SPECviewperf 12 - specvp12 maya-04
SPECviewperf 12 - specvp12 sw-03
SPECviewperf 12 - specvp12 snx-02
SPECviewperf 12 - specvp12 catia-04
SPECviewperf 12 - specvp12 creo-01
SPECviewperf 12 - specvp12 mediacal-01
SPECviewperf 12 - specvp12 energy-01
SPECviewperf 12 - Maya
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 สำหรับเวิร์กสเตชัน ใช้เอนจิน Autodesk Maya 13 เพื่อเรนเดอร์ฉากโรงไฟฟ้าพลังงานของซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งประกอบด้วยโพลีกอนมากกว่า 700,000 ชิ้น ในโหมดที่แตกต่างกันถึง 6 โหมด
SPECviewperf 12 - Catia
SPECviewperf 12 - Solidworks
SPECviewperf 12 - Siemens NX
SPECviewperf 12 - Creo
SPECviewperf 12 - Medical
SPECviewperf 12 - Energy
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 126
−14.3%
| 144
+14.3%
|
1440p | 75
−34.7%
| 101
+34.7%
|
4K | 60
−20%
| 72
+20%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.75
+2.1%
| 4.85
−2.1%
|
1440p | 7.99
−15.4%
| 6.92
+15.4%
|
4K | 9.98
−2.8%
| 9.71
+2.8%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 85−90
−28.2%
|
100−110
+28.2%
|
Cyberpunk 2077 | 85−90
−24.1%
|
100−110
+24.1%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 84
−7.1%
|
90
+7.1%
|
Counter-Strike 2 | 85−90
−28.2%
|
100−110
+28.2%
|
Cyberpunk 2077 | 85−90
+74%
|
50
−74%
|
Forza Horizon 4 | 190−200
−26.8%
|
250−260
+26.8%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
−19.4%
|
120−130
+19.4%
|
Metro Exodus | 111
+5.7%
|
105
−5.7%
|
Red Dead Redemption 2 | 114
+4.6%
|
109
−4.6%
|
Valorant | 160−170
−53.7%
|
249
+53.7%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 130
−44.6%
|
188
+44.6%
|
Counter-Strike 2 | 85−90
−28.2%
|
100−110
+28.2%
|
Cyberpunk 2077 | 85−90
+102%
|
43
−102%
|
Dota 2 | 113
+29.9%
|
87
−29.9%
|
Far Cry 5 | 75
−42.7%
|
100−110
+42.7%
|
Fortnite | 158
−22.2%
|
193
+22.2%
|
Forza Horizon 4 | 190−200
−26.8%
|
250−260
+26.8%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
−19.4%
|
120−130
+19.4%
|
Grand Theft Auto V | 119
−10.1%
|
131
+10.1%
|
Metro Exodus | 83
−6%
|
88
+6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 242
−1.2%
|
245
+1.2%
|
Red Dead Redemption 2 | 53
−50.9%
|
80
+50.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 142
−22.5%
|
170−180
+22.5%
|
Valorant | 160−170
+11.7%
|
145
−11.7%
|
World of Tanks | 272
−2.6%
|
270−280
+2.6%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 73
−8.2%
|
79
+8.2%
|
Counter-Strike 2 | 47
−132%
|
100−110
+132%
|
Cyberpunk 2077 | 85−90
+129%
|
38
−129%
|
Dota 2 | 100
−41%
|
140−150
+41%
|
Far Cry 5 | 179
+67.3%
|
100−110
−67.3%
|
Forza Horizon 4 | 190−200
−26.8%
|
250−260
+26.8%
|
Forza Horizon 5 | 100−110
−19.4%
|
120−130
+19.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 88
−81.8%
|
160
+81.8%
|
Valorant | 160−170
−37.7%
|
223
+37.7%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 72
−30.6%
|
90−95
+30.6%
|
Grand Theft Auto V | 72
−30.6%
|
90−95
+30.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 35
−48.6%
|
52
+48.6%
|
World of Tanks | 250−260
−21.5%
|
300−350
+21.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 72
−11.1%
|
80
+11.1%
|
Counter-Strike 2 | 28
−92.9%
|
50−55
+92.9%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+64%
|
25
−64%
|
Far Cry 5 | 118
−29.7%
|
150−160
+29.7%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
−27.1%
|
150−160
+27.1%
|
Forza Horizon 5 | 65−70
−23.5%
|
80−85
+23.5%
|
Metro Exodus | 82
−8.5%
|
89
+8.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70−75
−31%
|
90−95
+31%
|
Valorant | 120−130
−24.8%
|
161
+24.8%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
−28.6%
|
50−55
+28.6%
|
Dota 2 | 74
−44.6%
|
107
+44.6%
|
Grand Theft Auto V | 74
−44.6%
|
107
+44.6%
|
Metro Exodus | 28
−39.3%
|
39
+39.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 106
−37.7%
|
146
+37.7%
|
Red Dead Redemption 2 | 21
−61.9%
|
34
+61.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 74
−44.6%
|
107
+44.6%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 42
−42.9%
|
60
+42.9%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−28.6%
|
50−55
+28.6%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+50%
|
12
−50%
|
Dota 2 | 129
+25.2%
|
100−110
−25.2%
|
Far Cry 5 | 59
−35.6%
|
80−85
+35.6%
|
Fortnite | 54
−40.7%
|
75−80
+40.7%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−26.9%
|
85−90
+26.9%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−28.9%
|
45−50
+28.9%
|
Valorant | 65−70
−29.4%
|
88
+29.4%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1080 และ RTX 2080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 เร็วกว่า 14% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2080 เร็วกว่า 35% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 เร็วกว่า 20% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 1080 เร็วกว่า 129%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 2080 เร็วกว่า 132%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1080 เหนือกว่าใน 11การทดสอบ (17%)
- RTX 2080 เหนือกว่าใน 52การทดสอบ (81%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 40.47 | 48.85 |
ความใหม่ล่าสุด | 27 พฤษภาคม 2016 | 20 กันยายน 2018 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 16 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 180 วัตต์ | 215 วัตต์ |
GTX 1080 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 19.4%
ในทางกลับกัน RTX 2080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 20.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 33.3%
GeForce RTX 2080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1080 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ