GeForce RTX 2080 เทียบกับ GTX 1070
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1070 และ GeForce RTX 2080 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2080 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1070 อย่างมหาศาล 39% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 148 | 69 |
จัดอันดับตามความนิยม | 26 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 23.39 | 26.76 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 16.12 | 15.61 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | GP104 | TU104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 10 มิถุนายน 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $379 | $699 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 2080 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1070 อยู่ 14%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1920 | 2944 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1506 MHz | 1515 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1683 MHz | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 7,200 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 16 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 150 Watt | 215 Watt |
อุณหภูมิ GPU สูงสุด | 94 °C | ไม่มีข้อมูล |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 202.0 | 314.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.463 TFLOPS | 10.07 TFLOPS |
ROPs | 64 | 64 |
TMUs | 120 | 184 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 368 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | PCIe 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความสูง | 11.1 ซม | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
กำลังไฟระบบที่แนะนำ (PSU) | 500 วัตต์ | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ตัวเลือก SLI | + | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 8 จีบี/s | 1750 MHz |
256 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | DP 1.42, HDMI 2.0b, Dual Link-DVI | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C |
รองรับหลายจอภาพ | + | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
GPU Boost | 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
VR Ready | + | + |
Ansel | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.5 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | + | 1.2.131 |
CUDA | + | 7.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
SPECviewperf 12 - Maya
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 สำหรับเวิร์กสเตชัน ใช้เอนจิน Autodesk Maya 13 เพื่อเรนเดอร์ฉากโรงไฟฟ้าพลังงานของซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งประกอบด้วยโพลีกอนมากกว่า 700,000 ชิ้น ในโหมดที่แตกต่างกันถึง 6 โหมด
SPECviewperf 12 - 3ds Max
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 จำลองการทำงานกับ 3DS Max โดยรันการทดสอบทั้งหมด 11 ครั้งในสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการสร้างแบบจำลองสถาปัตยกรรมและแอนิเมชันสำหรับเกมคอมพิวเตอร์
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 117
−25.6%
| 147
+25.6%
|
1440p | 69
−52.2%
| 105
+52.2%
|
4K | 49
−53.1%
| 75
+53.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.24
+46.8%
| 4.76
−46.8%
|
1440p | 5.49
+21.2%
| 6.66
−21.2%
|
4K | 7.73
+20.5%
| 9.32
−20.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 95−100
−44.8%
|
130−140
+44.8%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−53.5%
|
100−110
+53.5%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−45.9%
|
100−110
+45.9%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 95−100
−44.8%
|
130−140
+44.8%
|
Battlefield 5 | 141
−15.6%
|
163
+15.6%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−53.5%
|
100−110
+53.5%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−45.9%
|
100−110
+45.9%
|
Far Cry 5 | 106
−10.4%
|
117
+10.4%
|
Fortnite | 256
+28.6%
|
199
−28.6%
|
Forza Horizon 4 | 129
−20.9%
|
156
+20.9%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
−40%
|
130−140
+40%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 135
−54.8%
|
209
+54.8%
|
Valorant | 200−210
−30.8%
|
263
+30.8%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 95−100
−44.8%
|
130−140
+44.8%
|
Battlefield 5 | 119
−30.3%
|
155
+30.3%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−53.5%
|
100−110
+53.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.7%
|
270−280
+0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−45.9%
|
100−110
+45.9%
|
Dota 2 | 130−140
−8%
|
140−150
+8%
|
Far Cry 5 | 100
−12%
|
112
+12%
|
Fortnite | 175
+1.2%
|
173
−1.2%
|
Forza Horizon 4 | 121
−26.4%
|
153
+26.4%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
−40%
|
130−140
+40%
|
Grand Theft Auto V | 111
−18%
|
131
+18%
|
Metro Exodus | 62
−45.2%
|
90
+45.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 122
−54.1%
|
188
+54.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 120
−50.8%
|
181
+50.8%
|
Valorant | 200−210
−26.4%
|
254
+26.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 107
−35.5%
|
145
+35.5%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−53.5%
|
100−110
+53.5%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−45.9%
|
100−110
+45.9%
|
Dota 2 | 130−140
−8%
|
140−150
+8%
|
Far Cry 5 | 90
−17.8%
|
106
+17.8%
|
Forza Horizon 4 | 94
−40.4%
|
132
+40.4%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
−40%
|
130−140
+40%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 81
−109%
|
169
+109%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 63
−68.3%
|
106
+68.3%
|
Valorant | 200−210
−10.9%
|
223
+10.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 127
−22.8%
|
156
+22.8%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
−25%
|
35−40
+25%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−38.7%
|
300−350
+38.7%
|
Grand Theft Auto V | 60−65
−45.3%
|
90−95
+45.3%
|
Metro Exodus | 38
−57.9%
|
60
+57.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−4.2%
|
247
+4.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 84
−48.8%
|
125
+48.8%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−55.6%
|
55−60
+55.6%
|
Far Cry 5 | 68
−45.6%
|
99
+45.6%
|
Forza Horizon 4 | 79
−49.4%
|
118
+49.4%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−37.9%
|
80−85
+37.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−52.5%
|
90−95
+52.5%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 79
−62%
|
128
+62%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−42.3%
|
35−40
+42.3%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−43.8%
|
21−24
+43.8%
|
Grand Theft Auto V | 62
−72.6%
|
107
+72.6%
|
Metro Exodus | 23
−69.6%
|
39
+69.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
−76.7%
|
76
+76.7%
|
Valorant | 190−200
−18.8%
|
234
+18.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45
−68.9%
|
76
+68.9%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−43.8%
|
21−24
+43.8%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−62.5%
|
24−27
+62.5%
|
Dota 2 | 95−100
−23.2%
|
120−130
+23.2%
|
Far Cry 5 | 35
−68.6%
|
59
+68.6%
|
Forza Horizon 4 | 52
−55.8%
|
81
+55.8%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−52.9%
|
50−55
+52.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35
−97.1%
|
69
+97.1%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 39
−66.7%
|
65
+66.7%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1070 และ RTX 2080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 เร็วกว่า 26% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2080 เร็วกว่า 52% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 เร็วกว่า 53% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ GTX 1070 เร็วกว่า 29%
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 2080 เร็วกว่า 109%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1070 เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RTX 2080 เหนือกว่าใน 64การทดสอบ (96%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 34.69 | 48.15 |
ความใหม่ล่าสุด | 10 มิถุนายน 2016 | 20 กันยายน 2018 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 16 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 150 วัตต์ | 215 วัตต์ |
GTX 1070 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 43.3%
ในทางกลับกัน RTX 2080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 38.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 33.3%
GeForce RTX 2080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1070 ในการทดสอบประสิทธิภาพ